แหลมสิงห์ร้อนอีกรอบ! นายอำเภอแจงยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบโฉนด ทำอะไรไม่ได้มาก

กลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าหน้าหาดแหลมสิงห์ ยื่นหนังสือร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบการออกโฉนดของบริษัทเอกชนชื่อดังทับลำลางสาธารณะทางเข้า-ออกหาดแหลมสิงห์

จุฑารัตน์ เปลรินทร์

วันพฤหัสบดี ที่ 9 มีนาคม 2560, เวลา 10:31 น.

วานนี้ (08 มี.ค.60) กลุ่มผู้ประกอบการและลูกจ้างหน้าหาดแหลมสิงห์ ต.กมลา กว่า 50 คนนำโดยนางสาวน้ำริน บุตตะ รวมตัวกันเดินทางมาที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกลมา เพื่อยื่นหนังสือต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ตรวจสอบกรณีที่หน่วยงานราชการได้นำเหล็กกันถนนไปติดตั้งปิดทางเข้า-ออกทางขึ้นลงหาดแหลมสิงห์และขอให้ตรวจสอบที่ดินโฉนดเลขที่ 6868 ของบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่ออกทับที่สาธารณะบริเวณทางเข้าขึ้นลงหาดแหลมสิงห์ โดยมีนายสายันห์ ชนะชัยวงศ์ นายอำเภอกะทู้เข้ารับเรื่องร้องเรียน

นางสาวน้ำริน เปิดเผยถึงการรวมตัวกันว่า เนื่องพวกตนซึ่งเป็นชาวบ้านได้ทำมาหากินบนหาดมายาวนาน ปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 10 ร้านมีผู้ประกอบการและลูกจ้างประมาณ 200 ชีวิตกระทั่งเมื่อบริษัทเอกชนซื่อดังรายหนึ่งเข้ามาออกโฉนดที่ดินหน้าหาดแหลมสิงห์ โดยโฉนดมีการออกทับลำรางสาธารณะประโยชน์และทางเจ้าของโฉนดได้ทำรั้วปิดกั้นทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวไม่สามารถลงหาดแหลมสิงห์ได้

ซึ่งทุกวันนี้พวกตนมีความจำเป็นต้องลงไปประกอบอาชีพหน้าหาด ก็ต้องเสียค่าผ่านทางให้กับเอกชนเจ้าของโฉนดรายละ 100 บาท รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ต้องการลงไปท่องเที่ยวบริเวณหาด ก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางรายละ 100 บาทเช่นกัน จึงมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งกรรมการสอบสวนตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินแปลงนี้และกันลำรางสาธารณะประโยชน์ออกจากโฉนดที่ดินเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ยังพบว่าบริเวณทางเข้าที่ดินโฉนดแปลงดังกล่าวระหว่างถนนสายกมลา-หาดสุรินทร์ที่เชื่อมต่อกับที่ดินแปลงดังกล่าวนั้นเดิมเคยเป็นสถานที่จอดรถรับ-ส่งนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้ประกอบการหน้าหาดแหลมสิงห์ใช้เป็นที่จอดรถ เพื่อขนอุปกรณ์การค้าขายลงพื้นที่ชายหาดนั้น ปัจจุบันมีหน่วยงานราชการได้เข้าไปทำกำแพงเหล็กกั้นริมถนนทำให้รถไม่สามารถจอดรับ-ส่งนักท่องเที่ยวได้ จึงคิดว่าเป็นการเอื้อประโยชน์นายทุนเจ้าของที่ดินหรือไม่ที่ทางหน่วยงานราชการไปทำกำแพงเหล็กขวางกั้นไม่ให้มีการจอดรถบริเวณนั้นทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีมาก่อน นางสาวน้ำริน กล่าว

ด้านนายสายันห์ กล่าวว่า กรณีการออกโฉนดที่ดินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพื่อดำเนินการกันที่สาธารณะออกจากโฉนดเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ร่วมกัน แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ โฉนดที่ดินของบริษัทเอกชนยังคงถูกต้องตามกฎหมาย ทางหน่วยงานภาครัฐจึงไม่สามารถดำเนินการใดๆได้จนกว่ากระบวนการตรวจสอบจะสิ้นสุด

ส่วนกรณีการสร้างกำแพงเหล็กกั้นระหว่างถนนกับที่ดินทางลงหาดแหลมสิงห์นั้นเป็นของแขวงการทางภูเก็ต ซึ่งสาเหตุสร้างกำแพงเหล็กปิดกั้นนั้นเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ดูแลที่ดินโฉนดเลขที่ 6868 ของบริษัทเอกชนนั้นได้มีการเรียกเก็บค่าผ่านทางเข้าในที่ดินเพื่อลงไปยังหาดแหลมสิงห์และจากการตรวจสอบของภาครัฐพบว่าไม่ได้มีการขออนุญาตขอเชื่อมทางระหว่างทางสาธารณะกับโฉนดที่ดินทางแขวงการทางจึงต้องดำเนินการปิดกั้นถนนโดยการทำกำแพงเหล็ก

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มผู้ประกอบการหน้าหาดแหลมสิงห์และนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหลังรับเรื่องร้องเรียนแล้ว ตนจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อหาทางออกให้กับกลุ่มผู้เดือดร้อนต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่