“โครงการนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาบนถนนนาใน เพราะเมื่อฝนตกก็มักจะมีหิน ดิน ทราย กิ่งไม้ เศษไม้ พัดมากับน้ำฝนจากภูเขาลงมาสะสมบนพื้นผิวถนนนาใน ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาจราจรตามมาหลังฝนตก” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว
“ก่อนหน้านี้ การแก้ไขปัญหาของเทศบาลคือต้องใช้รถดูดทรายออกทันทีหลังฝนหยุดตก ดังนั้นจึงได้สร้างบ่อดักทรายขึ้นเพื่อให้ดินทรายและสิ่งอื่นๆได้มารวมกันในบ่อก่อน แทนที่จะไปสะสมบนพื้นถนน และทางเทศบาลสามารถมาดูดทรายออกได้เป็นรายอาทิตย์ ไม่ใช่ทุกครั้งที่ฝนตกเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งมั่นใจว่าจะแก้ปัญหาน้ำและทรายท่วมขังบนพื้นที่บริเวณนี้ได้ในระยะยาวและจะทำให้ประชาชนสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ สอบถามจากหน่วยกองช่าง เทศบาลเมืองป่าตอง ทราบว่า โครงการดังกล่าวเริ่มสัญญาตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 60 และจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 8 พ.ย. 60 (เหลือเวลาอีก 2 วัน) งบประมาณทั้งหมด 19,915,000 บาท และจะมีการปรับวันละประมาณ 50,000 บาทหากเกิดความล่าช้า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กองช่างกล่าวว่า ก่อสร้างได้คืบหน้าไปแล้วกว่า 85% แต่อาจเกิดการล่าช้าบ้างเนื่องจากบริเวณก่อสร้างนั้นมีการจราจรหนาแน่น กอรปกับฤดูฝนที่ทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงักบ้างเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ทางเทศบาลและผู้รับเหมากำลังพยายามอย่างเต็มที่ให้ทุกอย่างแล้วเสร็จรวมไปถึงการปูถนนลาดยางให้พื้นผิวจราจรเสมอกันภายในปลายเดือนธ.ค. หรืออย่างช้าที่สุดเดือนม.ค. จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้ความอดทนอีกสักนิด
ชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยสัญจรไปมาบริเวณถนนเส้นดังกล่าว ระบุว่า “การก่อสร้างนี้นับว่ายาวนานและก่อให้เกิดปัญหารถติดมากขึ้นจริงแต่ถือว่าคุ้ม เพราะตั้งแต่เริ่มสร้างบ่อปัญหาการสะสมของทรายก็แทบจะไม่มีเลย ก่อนหน้านี้ชาวบ้านต้องทนทุกข์ทรมานกับถนนนาในเส้นนี้ทุกครั้งเมื่อฝนตกเพราะถนนจะเต็มไปด้วยทราย การสัญจรต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์เนื่องจากทรายมีความละเอียดและอาจทำให้รถเสียหลักได้ โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวที่เช่ารถจักรยานยนต์ขับท่องเที่ยวและไม่มีความชำนาญในการขับขี่ ซึ่งเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง”
“ตอนนี้ชาวบ้านก็ใช้ความอดทนกับการก่อสร้างดังกล่าว ยอมรับว่าการจราจรบริเวณนี้คับคั่งมากขึ้นตั้งแต่มีการก่อสร้าง แต่ยินดีอดทนรอให้สร้างแล้วเสร็จเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ชาวบ้านกล่าว
