’โอลีนา เซเลนสกา’ สตรีหมายเลขหนึ่งยูเครนเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงสื่อทั่วโลก

นี่คือจดหมายเปิดผนึกฉบับหนึ่ง ที่เขียน ถึงสื่อทั่วโลก โดย โอลีนา เซเลนสกา (Olena Zelenska)

ข่าวประชาสัมพันธ์

วันจันทร์ ที่ 14 มีนาคม 2565, เวลา 09:37 น.

โอลีนา เซเลนสกา สตรีหมายเลขหนึ่งยูเครน ภาพ Gints Ivuskans AFP

โอลีนา เซเลนสกา สตรีหมายเลขหนึ่งยูเครน ภาพ Gints Ivuskans AFP

เนื่องจากมีสื่อจำนวนมากมายจากทั่วโลกได้ยื่นคำร้องเพื่อสัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ จดหมายฉบับนี้ เป็น คำตอบของฉัน ต่อคำร้องขอเหล่านั้น และเป็นคำให้การจากประเทศยูเครน ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น หมู่บ้าน และเมืองต่าง ๆ ในประเทศเราอยู่กันอย่างสงบสุขเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เราทุกคนต่างตื่นขึ้น พร้อมกับการประกาศการรุกรานของรัสเซีย ด้วยรถถังข้ามพรมแดนยูเครน เครื่องบินพร้อมขีปนาวุธ เข้าสู่น่านฟ้าล้อมรอบเมืองของเรา

แม้ว่าจะมีการโฆษณาชวนให้เชื่อว่า ได้รับการสนับสนุนจากเครมลิน ซึ่งเรียก สิ่งนี้เป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" ความจริงแล้ว เป็นการสังหารหมู่พลเรือนยูเครน

การบุกรุกครั้งนี้ อาจเป็นสิ่งที่ทำลายล้างที่โหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัวที่สุด ก็คือ เด็กที่ได้รับบาดเจ็บ เด็กหญิงอลิซอายุแปดขวบ ที่เสียชีวิตบนถนนใน Okhtyrka ขณะที่ปู่ของเธอพยายามปกป้องเธอ หรือ กรณีจาก Kyiv โพลินา Polina พร้อมพ่อแม่ของเธอที่เสียชีวิตด้วยกระสุนปืน Arseniy อาร์เซนี วัย 14 ปี ถูกซากปรักหักพังกระแทกศีรษะโดยไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เนื่องจากรถพยาบาล ไม่สามารถไปถึงเขาได้ทันเวลาเนื่องจากไฟไหม้ลุกลามรุนแรง

เมื่อทางรัสเซีย กล่าวว่า ’ไม่ได้ทำสงครามกับพลเรือน’ สิ่งแรก ที่ฉันประณามพวกเขาคือ ผู้ฆาตกรรมเด็ก

พวกท่านน่าจะเคยเห็นภาพทั้งหมดหล่านี้ จากที่สถานีรถไฟใต้ดิน Kyiv และ Kharkiv พวกสตรีและเด็ก ๆ ของเราตอนนี้อาศัยอยู่ในที่พักพิง และหลุมหลบภัยห้องใต้ดินกันการวางระเบิด ผู้คนนอนอยู่เกลื่อนกลาดบนพื้นพร้อมกับลูกๆและสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ซึ่งอยู่พื้นข้างล่างนั้นนี่เป็นเพียงผลลัพธ์บางส่วนที่ชาวยูเครนได้รับจากสงคราม

ความจริง ณ ขณะนี้น่าสลดหดหู่สยดสยองมาก ในบางเมือง ครอบครัวที่ไม่สามารถออกจากที่พักพิงที่กันการวางระเบิดได้ เป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน เนื่องจากมีการทิ้งระเบิดและปลอกกระสุนบนโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนทั้งที่เจตนา และโดยไม่ได้เจตนา ภายใต้อากาศที่ร้อนระอุของห้องใต้ดิน ณ จุดนี้ มีเด็กหลายสิบคนที่ไม่เคยรู้จักความสงบสุขในชีวิต ทารกแรกเกิดของสงคราม ลมหายใจแรกที่ได้รับการต้อนรับ เห็นเพดานคอนกรีตของห้องใต้ดิน และพวกเขาได้รับการต้อน รับจากชุมชนที่ติดอยู่ในห้องและถูกคุกคาม

สงครามนี้กำลังต่อสู้กับประชากรพลเรือน ไม่ใช่เพียงการยิงโดยปลอกกระสุนเท่านั้น บางคนยังต้องได้รับการดูแลอย่างเข้มงวดที่สุดและต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้พวกเขาไม่สามารถรับได้ อย่างเช่น การฉีดอินซูลินในห้องใต้ดินไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรือ รับการรักษาพวกที่เป็นโรคหอบหืดที่ต้องใช้กระแสไฟแรงสูง และยังมีผู้ป่วยมะเร็งหลายพันคน ซึ่งอยู่ในภาวะเคมีบำบัด และการฉายรังสีที่จำเป็นในขณะนี้ ได้รับการดูแลรักษาล่าช้าอย่างไม่มีกำหนด

อันดับสองที่ประณามผู้รุกราน คือเป็นการทำสงครามกับผู้บริสุทธิ์ เหล่านี้ คือชุมชนท้องถิ่น ไร้การติดต่อปฎิสัมพันธ์สนับสนุน สัณญานการสื่อสารทางโซเชียลมีเดียร์ก็สิ้นหวัง ไม่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานใดๆ มีผู้คนจำนวนมากมาย ผู้สูงอายุ ผู้ที่ป่วยหนัก และ ผู้ทุพพลภาพ ถูกตัดขาดจากสภาพร่างกายที่ทรุดโทรม รวมถึงผู้ที่ต้องพลัดพรากจากครอบครัว

ถนนหนทางของเราเต็มไปด้วยผู้ลี้ภัย มองเห็นเข้าไปในถึงดวงตาของผู้หญิงและเด็กที่แสนเหนื่อยล้าเหล่านั้น ซึ่งต้องแบกภาระรับความเจ็บปวดและความโศกเศร้าจากการทิ้งคนที่รักและชีวิตผู้คนที่พวกเขาเคยรู้จักไว้เบื้องหลัง พวกผู้ชายที่พาพวกเขาไปส่งที่ชายแดนต้องกั้นน้ำตาไหลเมื่อต้องแยกจากครอบครัวของพวกเขา แต่หลังจากนั้นพวกเขากลับมาอย่างกล้าหาญเพื่อต่อสู้ ให้ได้มาเพื่ออิสรภาพของเรา ท้ายสุดนี้ ทุกสิ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะสลดหดหู่สยดสยองขวัญ ชาวยูเครน Ukrainians ก็ไม่ยอมแพ้

ปูติน ผู้รุกรานคิดว่า เขาเปิดสงครามแบบสายฟ้าแลบใส่ยูเครน เขาดูถูก ดูแคลนประเทศของเรา ประชาชนของเรา และความรักชาติของพวกเขา ชาวยูเครน นั้น ไม่คำนึงถึงความคิดเห็นทางการเมือง ภาษาพื้นเมือง ความเชื่อ และสัญชาติ เรายืนหยัดในความสามัคคีที่ไม่มีใครเทียบได้

ในขณะที่นักโฆษณาชวนเชื่อ เครมลินอวดอ้างนั้นว่า ชาวยูเครนจะต้อนรับพวกเขาด้วยช่อดอกไม้ ในฐานะผู้ช่วยชีวิต แต่พวกเขากลับต้องตะลึงการต้อนรับ แบบ Molotov cocktails (โมโลธอฟค็อกเทล คือ เป็นการต่อสู้แบบ อาวุธที่ผลิตคิดค้นขึ้นเอง เช่น ระเบิดขวดแก๊ซโซลิน)

ฉันขอขอบคุณพลเมืองของเมืองที่ถูกโจมตี ที่ได้ประสานงานเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ คนที่ยังคงทำงานอยู่ในร้านขายยา ร้านค้า การขนส่งสาธารณะ และบริการสังคม แสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิตมีชนะในยูเครน

ฉันรับทราบ ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แก่พลเมืองของเราและขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของพวกท่าน และสำหรับเพื่อนบ้านของเราที่เอื้อเฟื้อด้วยน้ำใจไมตรีดี เปิดพรมแดนให้ เพื่อให้ที่พักพิงสำหรับผู้หญิงและเด็กของเรา ฉันขอขอบคุณอีกครั้งที่รับให้พวกเขาอยู่อย่างปลอดภัย ขณะที่เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากเรายังถูกรุกราน

ถึงผู้คนทั่วโลกที่ร่วมชุมนุมเพื่อสนับสนุนยูเครน เราเห็นท่าน! เรากำลังรับชมและซาบซึ้งใจพวกท่าน สำหรับการสนับสนุนทุกประการ

ยูเครนต้องการความสงบสุข เครนจะปกป้องพรมแดนของตน การปกป้องความเป็นตัวตน สิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันยอมจำนน

ในเมือง ยังคงมีการระดมยิงกระสุนปืนอยู่ ซึ่งมีผู้คนอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ไม่สามารถออกจากห้องใต้ดินได้เป็นเวลาหลายวัน เราต้องการทางเดิน ที่ปลอดภัย สำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการอพยพพลเรือนไปยังที่ปลอดภัย

เราต้องการผู้มีอำนาจเพื่อปิดป้องน่านฟ้าของเรา! การปิดน่านฟ้านั้นเพื่อที่เราจะจัดการสงครามบนพื้นดินของพวกเราเอง

ข้าพเจ้าขอวิงวอนความเมตตาจาก สื่อที่รัก โปรดแสดงให้ประจักษ์ว่า เกิดอะไรขึ้นที่นี่ และแสดงความจริงต่อไป ในสงครามข้อมูลที่ดำเนินการโดยสหพันธรัฐรัสเซีย หลักฐานทุกชิ้นมีความสำคัญ

และด้วยจดหมายฉบับนี้ ฉันเป็นพยานได้และประกาศให้โลกรู้ว่า สงครามในยูเครนไม่ใช่สงคราม "ที่ไหนที่อื่นไกลเลย" นี่คือสงครามในยุโรป ใกล้กับพรมแดนของสหภาพยุโรป ยูเครน กำลังปกป้อง อำนาจกองกำลังผู้ที่อาจรุกราน

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่