ไทยพร้อมรับ นทท.จีน เที่ยวแรก 9 ม.ค. แจงมาตราการรองรับ คาดไตรมาสแรก 3 แสนคน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เผยผลประชุม 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศเพื่อเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันจันทร์ ที่ 9 มกราคม 2566, เวลา 09:26 น.

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

ระบุว่า ที่ประชุมเห็นตรงกัน ควรปฏิบัติตามแนวทางโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังและปฏิบัติกับผู้เดินทางจากทุกประเทศใช้มาตรการด้านสาธารณสุข อย่างเท่าเทียม ไม่กีดกันผู้เดินทางจากประเทศใดประเทศหนึ่ง และยืนยันว่าระบบของไทยพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีความพร้อมหากพบการระบาดของโรคที่รุนแรงเพิ่มขึ้นรวมถึงมีการติดตามและประเมินสถานการณ์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อปรับมาตรการตามสถานการณ์ความเสี่ยง

ส่วนมาตรการรองรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม, ตรวจ RT-PCR ให้กับนักท่องเที่ยวก่อนเดินทางกลับประเทศต้นทาง, นักท่องเที่ยวต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเดินทางมาท่องเที่ยว ซึ่งต้องครอบคลุมการรักษาโรคโควิด-19 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้นปรับมาตรการต่าง ๆ ตามความเหมาะสม และให้โรงแรมที่จัดซุ้มอำนวยความสะดวกสำหรับตรวจ RT-PCR ด้วย

ส่วนการเตรียมความพร้อมในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ได้มีการสั่งการสาธารณสุข เพิ่มศักยภาพภาพเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น, สถานพยาบาล Hospitel เพื่อรองรับผู้ที่มีผลตรวจพบเชื้อโควิด-19, ขอความร่วมมือจากประชาชนและผู้บริการ และอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว และคมนาคมให้ปฏิบัติติตามมาตรการส่วนบุคคล ไม่รวมกลุ่มจำนวนมากในพื้นที่แออัด หากป่วยมีอาการทางเดินหายใจ เช่นไอ เหนื่อย เป็นไข้ ให้สวมหน้ากากอนามัย และเน้นย้ำให้เข้ารับวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เข็มที่ 4 เพื่อความปลอดภัย

ทางด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่า นักท่องเที่ยวจีน จะเดินทางมาหลังเทศกาลตรุษจีนและในไตรมาสแรกจะมีนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 3 แสนคน คาดว่า เดือน ม.ค.ประมาณ 60,000 คน เดือน ก.พ. 90,000 คนและเดือน มี.ค. 150,000 คน โดยเที่ยวบินแรกจะมาไทย 9 ม.ค. จากเมืองเซี่ยเหมิน และเซี่ยงไฮ้

ล่าสุด กพท.จัดทำประกาศนักบิน ออกกฎ 7 ข้อปฏิบัติ สกรีนผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าไทย ตามการปรับมาตรการใหม่ป้องกันโควิด-19 เริ่มดำเนินการ 9 ม.ค.2566 เป็นต้นไป

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ได้จัดทำประกาศนักบิน (NOTAM) เรื่องข้อกำหนดในการเข้าประเทศไทยสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ กำหนดเริ่มใช้วันที่ 9 ม.ค. 2566 เวลา 08.00 น. ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2566 เวลา 00.59 น. โดยมี 7 ข้อกำหนดดังต่อไปนี้

1.ผู้โดยสารอายุมากกว่า 18 ปี ต้องแสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือจดหมายจากแพทย์ที่รับรองว่าหายจากโรคโควิด-19 แล้วไม่เกิน 6 เดือน (180 วัน) ส่วนผู้โดยสารที่ไม่ได้รับวัคซีน ต้องมีจดหมายจากแพทย์พร้อมแสดงเหตุผล

2.ผู้โดยสารที่มาจากประเทศที่มีมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ติดโควิด-19 เดินทางกลับเข้าประเทศ จะต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 ตลอดช่วงระยะเวลาเดินทางในประเทศไทยและบวกเพิ่มอีก 7 วัน สำหรับผู้มาประกอบภารกิจรวมถึงลูกเรืออาจจะใช้หนังสือรับรองจากหน่วยงานเจ้าภาพรับรองแทน

Berda Claude International School of Phuket (BCIS)

3.ผู้โดยสารที่ถือพาสปอร์ตไทย ได้รับการยกเว้นในการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคซีนและเอกสารประกันสุขภาพ

4.ผู้โดยสารที่เปลี่ยนเครื่องหรือต่อเครื่อง ได้รับการยกเว้นจากการตรวจสอบเอกสารการได้รับวัคซีนและเอกสารประกันสุขภาพ โดยผู้โดยสารเหล่านี้ ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดของประเทศปลายทาง

5.สายการบินต้องตรวจสอบเอกสารตามที่กล่าวมา ถ้าผู้โดยสารไม่สามารถแสดงเอกสารเหล่านี้ได้ สายการบินจะต้องปฏิเสธไม่ให้ผู้โดยสารเดินทาง

6.สายการบินต้องยึดตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องและปฏิบัติตามคู่มือแนวทางตามความเหมาะสม เช่น ขอให้ผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากตลอดการเดินทาง ยกเว้นช่วงรับประทานอาหาร หรือในภาวะฉุกเฉิน ฯลฯ

7.ผู้โดยสารที่มีอาการของโรคโควิด-19 ระหว่างการเดินทาง จะได้รับการแนะนำให้ทำการตรวจการติดเชื้อ เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมาย

นอกจากนี้ยังประกาศรายชื่อวัคซีนที่ประเทศไทยยอมรับสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ (ฉบับใหม่) ข้อมูล ณ วันที่ 6 มกราคม 2566 ให้ได้รับทราบด้วย

ที่มา: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่