คณะกรรมาธิการฯ ติดตามความคืบหน้าปัญหาพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินภูเก็ต บ้านบางเทา คอเอน

ภูเก็ต – คณะกรรมาธิการการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมรับฟังและติดตามความคืบหน้าปัญหาพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน ในพื้นที่บ้านบางเทาและบ้านคอเอน

ข่าวภูเก็ตประชาสัมพันธ์หน่วยงานรัฐ

วันอังคาร ที่ 16 กรกฎาคม 2567, เวลา 14:01 น.

วันนี้ (16 ก.ค. 67) ที่ห้องประชุมเจ้าฟ้า ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายกองเอกอดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายฐิติกันต์ ฐิติพฤติกุล โฆษกคณะกรรมาธิการฯ นายธิวัชร์ ดำแก้ว ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการฯ นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดภูเก็ต และคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมรับฟังและติดตามความคืบหน้าปัญหาพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมนำเสนอข้อมูลความคืบหน้าการดำเนินการและมีประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมรับฟังและติดตามข้อมูล

ทั้งนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นปัญหาที่ราชพัสดุแปลง ภก 263 (บ้านบางเทา) ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตได้รายงานความคืบหน้าว่า ได้ดำเนินการแก้ปัญหาในส่วนที่เดือดร้อนของประชาชนประกอบด้วย สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ภูเก็ตออกหนังสือยินยอมให้ราษฎรไปขออนุญาตดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (ติดตั้งมิเตอร์น้ำไฟ) รวมถึงไม่ขัดข้องที่ราษฎรในกลุ่มที่ 1 คือทายาทตามกฎหมายของผู้ถือสิทธิเดิมจำนวน 329 ราย และกลุ่มที่ 2 คือราษฎรที่ครอบครองที่ดินเดิมมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 ปี (ผู้ถือครองที่ดินก่อนปี 2491) จำนวน 639 ราย จะดัดแปลงอาคารแต่ไม่อนุญาตให้ก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่หรือก่อสร้างต่อเติมหรือดัดแปลงเพื่อประโยชน์อย่างอื่นหรือประโยชน์ในเชิงธุรกิจและไม่ขัดข้องให้ อบต.เชิงทะเลจัดหาสนับสนุนระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการขั้นพื้นฐานตามความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตแก่ราษฎรทั้ง 2 กลุ่ม

ด้าน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้ชี้แจงผลการดำเนินการในการแก้ไขกรณีปัญหาชุมชนหัวท่า-ท่าต้นโด บ้านคอเอน หมู่ที่ 2 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต กรณีคำร้องขออนุญาตปลูกสร้างสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ประเภทบ้านพักอาศัย ของนายกอบกิจ อยู่เย็น, นายประยูร จิงา, นายเส็น จิงา, นายประเสริฐ จิงา และนายโหยบ วารีศร ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยการบังคับให้เจ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำตามคำสั่งฯ อนึ่ง ตามนัยมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2539 หากปรากฏ มีพยานเอกสารหลักฐานใหม่ เจ้าของบ้านทั้ง 5 หลัง สามารถนำมาแสดงพิจารณาทบทวนคำสั่งทางปกครองได้ ซึ่งต้องเป็นไปตามข้อ 4 (1) (ก) ของประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง และการพิจารณาอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือ สิ่งอื่นใดล่วงลำแม่น้ำตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2560

ทั้งนี้ นายฐิติกันต์ ฐิติพฤติกุล โฆษกคณะกรรมาธิการ กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าและการแก้ไขปัญหาของกรณีดังกล่าว โดยต้องรับเรื่องใหม่ไปด้วยอย่างกรณีที่ดินราชพัสดุบางเทา จะมีความคืบหน้าเร็ว ๆ นี้และจะมีการดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2568 ส่วนกรณีที่ดินบ้าน 5 หลัง บ้านคอเอน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ. ภูเก็ต ทางสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตได้เร่งรัดกฎหมายในการดำเนินคดี โดยทางคณะกรรมาธิการฯ จะดำเนินการประชุมและทำข้อเสนอแนะไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชะลอการดำเนินการไปก่อนเนื่องจากมีหลักฐานชุดใหม่ว่าราษฎรได้มาอยู่กับชุมชนจริง ชุมชนทั้งหมดกว่า 37 หลังจะมีเพียง 5 หลังที่ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เกิดข้อสงสัย แต่เพราะมีการประชุมของหลายหน่วยงานราชการ ทำให้เกิดความล่าช้าในการตรวจสอบสิทธิ์ แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศของราษฎร ทำให้ราษฎรเสียเปรียบในการดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยทางคณะกรรมาธิการฯ จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายเพื่อการอยู่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย ส่วนกรณีปัญหาราษฎรที่อยู่ในพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชน ในเขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระแทว อ.ถลาง จ. ภูเก็ต มีราษฎร 64 ราย ยื่นเรื่องเข้ามาใหม่ 12 ราย คดีผู้ไม่มีเสียหาย 3 ราย คดีมีผู้ต้องหา 9 ราย กระบวนการหลังจากนี้ทางอุทยานฯ จะชี้แจงรายละเอียดต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่