หลังรับแจ้ง ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฎ ไทยราช รองสว.สอบสวน สภ.วิชิต จึงประสานหน่วยกู้ชีพเทศบาลวิชิตร่วมสนับสนุน ก่อนลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิกร สมสุข ผกก.สภ.วิชิต นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ ลักษณะวิมล รองผกก.สส.สภ.วิชิต พ.ต.ท.สรพงษ์ ชูแก้ว รอง ผกก.ป.สภ.วิชิต และพ.ต.ท.พีรพันธ์ มีมาก รองผกก.(สอบสวน)สภ.วิชิต
ที่เกิดเหตุภายในบ้านเลขที่ 12/319 ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วกำแพงหน้าบ้าน และมีประตูกระจกสไลด์ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งเป็น พ่อแม่ลูกกัน ทราบชื่อคือ นายสมชาย เคียงจันทร์ อายุ 42 ปี อาชีพครูสอนนาฏศิลป์ มีบาดแผลถูกยิงที่คอด้านซ้าย 1 นัด เลือดไหลนองพื้น อาการสาหัส ส่วนนางอุรารัตน์ อายุ 43 ปี ภรรยา ถูกยิงที่เเขน 1 นัด ขา 1 นัด ที่หลังบริเวณส่วนเอวอีก 2 นัด นิ้วมือด้านขวาหัก
และผู้บาดเจ็บอีกรายซึ่งเป็นบุตรชาย คือ นาย ธนาวัฒน์ เคียงจันทร์ 20 ปี ถูกยิงที่ขาขวา และด้านหลัง บริเวณเอว เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา ซึ่งในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่ไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานในภายหลัง
ร.ต.ท.หญิง ขวัญสิรินาฎ กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุในช่วงบ่าย (9 เ.ม.ย.) นาย สมชาย เจ้าของบ้านมีอาชีพเป็นนักแสดง และเป็นครูสอนนาฏศิลป์ได้มีการซ้อมการแสดงให้กับลูกศิษฐ์ที่มาเรียนตามปกติ ก่อนที่จะแยกย้ายกลับในช่วงเย็น ซึ่งชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเห็นจนชินตา ต่างคนต่างเข้าบ้านเตรียมตัวเข้านอนตามปกติ
กระทั่งในเวลา ประมาณ 23.30 น.ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 7 นัด เพื่อนบ้านจึงรีบออกมาดู พบว่า นายธนาวัฒน์ บุตรชาย คลานออกมาขอความช่วยเหลืออยู่กลางถนนหน้าบ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ชีพเข้าช่วยเหลือ
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้หาเบาะแสคนร้ายเพิ่มเติม จนทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่ชื่อนายอ้น ซึ่งอยู่ติดกัน เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงทั้ง 3 คนจนได้รับบาดเจ็บ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสภ.สกัดจับรถต้องสงสัยที่คาดว่านายอ้นจะใช้หลบหนี กระทั่ง พบรถคันดังกล่าวกำลังวิ่งออกผ่านด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง มุ่งหน้าไป จ. พังงา จึงเรียกตรวจค้นแต่ไม่พบตัวนายอ้น พบเพียงพ่อของนายอ้น ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ ขณะนี้คาดว่านายอ้นได้เปลี่ยนแผนหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมาย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด ต้องรอสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บอีกครั้งขณะที่ผู้ก่อเหตุนั้นเชื่อว่าอาจจะยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่