จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบและพบกลุ่มบุคคลต่างด้าวดังกล่าว จำนวน 3 กลุ่ม ห่างกันประมาณ 10 นาทีรวมเป็นทั้งสิ้น 48 คนเป็นชาย 19 หญิง 29 คนจึงได้ นำตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดมาสอบถาม ในเบื้องต้นทราบว่าไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทยเดินทางโดยทางเรือมาจากทางด้านประเทศบังกลาเทศ หรือพม่าแล้ว เรือที่ขนส่งมาได้นำมาส่งที่บริเวณท่าเรือท่านุ่น ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
หลังจากขึ้นฝั่งแล้วจึงได้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ตเดินตามถนน อีกส่วนหนึ่งเดินไปยังฝั่งจังหวัดพังงา จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบ เพื่อดูแลช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวดังกล่าว และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ ประกอบด้วยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตำรวจน้ำ ทหารเรือทัพเรือภาค 3 หน่วย ศรชล. แล้ว
สอบถาม นายวิวัฒน์ จินดาพล คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เล่าว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบคนแปลกหน้าอยู่บริเวณชายหาดหน้าวัดไม้ขาว จึงแจ้งทางนายอำเภอถลางทราบ พร้อมประสานกับผู้ใหญ่บ้านและเหน้าที่ตำรวจลงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงบริเวณชายหาดหน้าวัดก็พบกลุ่มคนต่างด้าวจำนวนมาก และมีบางส่วนที่วิ่งหลบหนีไป จึงได้เข้าไปตรวจสอบและนำตัวมาไว้ที่ด่านท่าฉัตรไชย เพื่อประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง เบื้องต้นที่สอบถามผ่านทางล่ามบอกว่า คนกลุ่มนี้อ้างว่านั่งเรือประมงมาจากประเทศบังคลาเทศ เพื่อไปยังประเทศที่ 3 (มาเลเซีย) จำนวน 75 คน ระหว่างทางมีปัญหาจึงถูกปล่อยลงบริเวณชายทะเลฝั่งเมียนมา แต่ด้วยกลัวว่าจะถูกจับ จึงเดินลัดเลาะมาตามชายหาดกระทั่งมาถึงชายหาดท่าฉัตรไชยใช้เวลากว่า 5 วัน ซึ่งตอนที่พบทุกคนมีสภาพอิดโรยอย่างมาก เนื่องจากไม่ได้กินอาหารมาแล้วหลายวัน จึงได้นำอาหารและน้ำมาให้ รวมทั้งในส่วนของคนที่มีอาการป่วยก็ให้ทานยาด้วย ขณะเดียวกันยังได้มีการประกาศเสียงตามสายของหมู่บ้านหากพบเห็นคนแปลกหน้าก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฯ เพื่อรับตัวมาตรวจสอบตามขั้นตอน
ทางด้าน นายศิวัชฐ์ ระวังกุล นายอำเภอถลาง กล่าวว่า หลังรับรายงานก็ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมทั้งประสานฝ่ายปกครองในพื้นที่ทำการตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามหลักมนุษยธรรม เบื้องต้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบุคคลสัญชาติใด โดยต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตรวจคัดกรองตามขั้นตอนของกฎหมายอีกครั้ง
