เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 พ.ย. 60 ที่สถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เจ้าหน้าทีตำรวจน้ำ ภายใต้อำนวยการโดย พ.ต.อ.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ รองผบก.ตำรวจน้ำ รักษาราชการแทนผู้กำกับการกองกำกับการ 8 นำโดย พ.ต.ต.ทศพล มนทสิทธิ์ สว.ส.รน.3 กก.8 บก.รน. และนายสาคร ปู่ดำ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาชาวเมียนมา 3 ราย
ประกอบด้วย นายมิน ออง มา (MIN AUNG MA) อายุ 43 ปี, นายโม เนียง @สุริน (MOE NAING @ SURIN) อายุ 25 ปี และ นายเมียน อู ออ (MYINT OO AU) อายุ 30 ปี หลังได้ร่วมลักทรัพย์ชิ้นส่วนเรือประมง สัญชาติโบลิเวีย ที่จอดอยู่ในคลองท่าจีน ต.รัษฏา อ.เมืองภูเก็ต ก่อนเจ้าหน้าที่จะจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นอะไหล่เรือ อาทิเช่น กว้านสมอเรือ , ชุดขดลวดทองแดงไดร์ปั่นเรือ, แสตนยกเพลา คอนโทรลเกียร์ ถังน้ำยาแอร์ วาล์วน้ำ และอุปกรณ์บนเรือประมง 19 รายการ
พ.ต.ต.ทศพล เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเที่ยงของวันเดียวกันได้รับแจ้งจากลูกเรือท่องเที่ยวว่าพบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังขนย้ายชิ้นส่วนอะไหล่เรือประมงที่จอดอยู่ในคลองท่าจีน ซึ่งเป็นเรือประมงทูน่าสัญชาติโบลิเวีย ที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำประมงผิดกฎหมาย โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ขนย้ายอะไหล่เรือขึ้นไปกองไว้ในป่าชายเลน จึงประสานไปยังสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ตทราบก่อนร่วมวางแผนเข้าตรวจค้น
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงบริเวณป่าชายเลนใกล้จุดที่เรือจอดพบ นายมินกำลังขนย้ายอะไหล่เรืออยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ แต่นายมินได้กระโดดลงน้ำหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงใช้เรือยาง สกัดจับตัวไว้ได้ จากนั้นได้เข้าค้นบนเรือประมงทูน่าที่จอดอยู่อีก 2 ลำ พบนายโมและนายเมียน หลบอยู่ในห้องเครื่องและห้องกระชับ จึงควบคุมตัวไว้ ก่อนตรวจสอบภายในเรือพบของกลางซึ่งมีทั้ง ชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้าบนเรือ ที่ถูกถอดแยกชิ้นส่วนวางอยู่บนเรือและป่าชายเลนหลายรายการ จึงควบคุมตัวทั้ง 3 มาสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 3 ให้การว่า เป็นลูกเรือประมงซึ่งจอดภายในคลองท่าจีน ซึ่งอยู่ในช่วงไม่ออกเรือ จึงรับงานจางทั่วไป และ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีชายไทยชื่อย่อว่า นาย น. อ้างว่าเป็นเจ้าของเรือทูน่าที่ถูกยึด มาว่าจ้างคนละ 400 บาท ให้ทั้ง 3 ไปช่วยขนอะไหล่จากเรือประมงทูน่าไปไว้ที่ริมป่าชายเลน ก่อนจะมีผู้มารับไปขายต่อ โดยนาย น. ผู้ว่าจ้างบอกว่าสิ้นสุดคดีแล้ว โดยที่ผ่านมาทั้ง 3 รับงานจากนาย น. มาแล้ว 2 ครั้ง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเรือผู้อื่น” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในส่วนของผู้ว่าจ้างนั้นจะต้องรวบรวมหลักฐานติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในภายหลัง