ชายเกาหลีอายุ 40 ตัดสินใจจบชีวิต’รมแก๊ส’ในรถ เขียนจดหมายขอโทษครอบครัว

ภูเก็ต - เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. วันนี้ (31 ก.ค.) พ.ต.ท.ณรงค์ เมืองด้วง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์กระบะ จอดอยู่บริเวณลาดจอดรถหน้าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง บนถนนขวาง ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 31 กรกฎาคม 2563, เวลา 20:27 น.

ภาพ สภ.วิชิต

ภาพ สภ.วิชิต

หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.วิชิต, พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต, แพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัย

พ.ต.ท.ณรงค์ รายงานว่า ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสีขาว ป้ายทะเบียนภูเก็ต ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบร่างของชายชาวต่างชาติ อายุ 40 ปี สัญชาติเกาหลี (ในเบื้องต้นขอสงวนนาม) นอนเสียชีวิตอยู่บนเบาะนั่งด้านคนขับ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ

จากการตรวจสอบพบว่า มีการนำสายท่อต่อกับถังไนโตรเจนซึ่งวางอยู่ท้ายรถยนต์กระบะฯ เชื่อมต่อกับถุงพลาสติกที่คลุมศีรษะมาถึงบริเวณต้นคอ โดยใช้ผ้าเทปพันรวบถุงที่บริเวณลำคอ ทั้งยังพบจดหมายซึ่งมีข้อความเป็นภาษาเกาหลีวางอยู่ภายในรถกระบะ แปลเป็นภาษาไทยโดยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลเกาหลี ประจำจังหวัดภูเก็ต มีรายละเอียดคือ “ขอโทษครอบครัวของผม คนที่ดูแลผม ให้อภัยผมด้วยที่ทำแบบนี้ ผมพยายามเต็มที่แต่ก็ไม่ได้ ผมรู้สึกผิดที่ทำหลายเรื่อง แต่เรื่องมันไม่จบ รู้สึกติดใจที่ทิ้งแฟนที่ให้กำลังใจและความรักของผม ขอโทษนะที่ผมเอาแต่ใจและตัดสินใจแบบนี้ ขอบคุณมาก ๆ ที่รักผม เป็นชีวิตที่สั้นและเสียดาย แต่ตอนนี้อยากพักแล้วครับ ขอโทษอีกครั้งครับ”

จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้เสียชีวิตขับรถยนต์เก๋ง ป้ายทะเบียนภูเก็ต ออกมาจากบ้านทรงคุณนาบอน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ผ่านกล้องวงจรปิดของบริษัทโกเด้น ไทรเองเกิล บีน จำกัด เมื่อวันที่ 31ก.ค.2563 เวลาประมาณ 07.35 น. และมาจอดบริเวณลานจอดรถ จากนั้นได้เดินไปสูบบุหรี่อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปที่รถยนต์กระบะ โดยพบว่ามีการทำอะไรบางอย่างอยู่ที่รถนานประมาณ 17 นาที แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด เนื่องจากกล้องวงจรปิดอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุ

HeadStart International School Phuket

พ.ต.ท.ณรงค์ รายงานเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดลูกค้าต่างประเทศ ก่อนเกิดเหตุได้ให้พนักงานซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทและเป็นลูกน้องของผู้เสียชีวิตหาซื้อถังไนโตรเจน โดยแจ้งว่าจะนำไปเป็นอุปกรณ์อัดเม็ดกาแฟ เนื่องจากผู้เสียชีวิตจะเปิดร้านจำหน่ายกาแฟ แต่ลูกน้องของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าไม่สามารถหาซื้อได้ เชื่อว่าสาเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากความเครียดเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจึงตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการรมแก๊ส

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ แพทย์ชันสูตรพลิกศพที่จุดเกิดเหตุ และนำศพส่งตรวจพิสูจน์โดยละเอียดที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่