หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผกก.สภเมืองภูเก็ต ทราบจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาและสาธารณภัย เทศบาลตำบลรัษฎา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยภายในหมู่บ้านดังกล่าว ได้ออกมายืนอยู่บริเวณหน้าบ้านพักท่ามกลางสายฝน ที่ตกโปรยปรายต่อเนื่องมาหลายชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นได้รับความเสียหาย จำนวน 9 หลัง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ พบว่าดินบริเวณด้านหลังยังมีเสียงลั่นอยู่ เพื่อความปลอดภัยจึงได้ให้เจ้าของบ้าน และผู้อยู่อาศัยได้ออกนอกจากตัวอาคารในเบื้องต้นแล้วเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากดินดังกล่าวได้อุ้มน้ำมาเป็นเวลานานแล้ว หวั่นดินจะสไลด์จะลงมาทับอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวสอบถาม นางกัญญารัตน์ จักรวาที อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งได้เข้ามาอยู่ภายในบ้านได้เพียง 13 วัน และได้นอนอยู่ในชั้นล่าง เนื่องจากจัดบ้านยังไม่เสร็จ ได้เล่าว่าประมาณ 05.00 น. ได้นอนอยู่ด้านล่างกันทั้งหมดเลย เพราะเพิ่งย้ายมาแล้วได้ยินเสียงดังโครมันก็เลยไปเปิดไฟ พอเปิดไฟเห็นน้ำไหลมาจากในครัวจึงพยายามจะพาคนออกมา แต่น้ำก็ยังไหลเรื่อย ๆ เพราะว่าฝนยังตกอยู่ ตนย้ายมาประมาณ 15-16 วัน อยู่ด้วยกันผู้ใหญ่ 4 เด็กอีก 1 ส่วนห้องข้างบนมีดินทับลงมาเลยเปิดประตูไม่ได้
ด้านนายนพได้เล่าว่า น้ำบนเขาถล่มลงมามีทั้งดินทั้งโคลนเพราะภูเขาไม่มีต้นไม้ เมื่อก่อนมีต้นไม้แต่เขาเอาต้นไม้ออก ดินก็ไม่ได้อุ้มน้ำ เกือบปีแล้วที่เขาเอาต้นไม้ออก บ้านตนโดนหลังคาบ้านนิดหน่อยเพราะบ้านอื่นแตกอิฐบล๊อกมาโดนหลังคาบ้านตน ตนได้ยินเสียงดังเลยคิดว่าฟ้าผ่าในตอนแรก จากนั้นวิ่งออกมาดูแล้ว เขามายืนหน้าหมู่บ้านหมดแล้ว และเข้าไปถามดูว่ามีใครอยู่ไหมที่ตรงข้างบ้าน