พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ถลาง ว่าได้มีเหตุลักทรัพย์ที่บริษัทไซเดอร์ เฮ้าส์ จำกัด ต.ศรีสุนทร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันเดินทางไปทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้ทุบกระจกบริเวณหน้าร้านเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สินที่อยู่ภายในบริษัท และทรัพย์สินที่สูญหายไปคือตู้เซฟจำนวน 1 ใบ ซึ่งภายในมีทรัพย์สินอยู่หลายรายการ ดังนี้
1.นาฬิกาข้อมือ Gc แบรนด์ Guess เรือนสีเงิน 1 เรือน ราคาประมาณ 20,000 บาท
2.นาฬิกาข้อมือ Gc สีทอง 1 เรือน ราคาประมาณ 22,000 บาท
3.นาฬิกาข้อมือ Gcสีเทา-ดำ 1 เรือน ราคาประมาณ 24,000 บาท
4.นาฬิกาข้อมือคองคอร์ดสีเงิน 1 เรือน ราคาประมาณ 40,000 บาท
5.นาฬิกายี่ห้ออัลไพน์สายหนังสีดำ 1 เรือน ราคาประมาณ 150,000 บาท และเอกสารส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ถลาง ได้เร่งทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเช้าวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “มาก่อนกูไม่รู้ มาหลังกู ชู้ทั้งนั้น” ได้โพสต์ลงในเพจ “ อยากซื้อ อยากขาย กันเอง ภูเก็ต กระบี่” โดยได้มีการโพสต์ขายนาฬิกาซึ่งมีตำหนิตรงกันกับของผู้เสียหายที่ถูกลักไป
จากนั้นขยายผลจนทราบตัวผู้กระทำผิดคือ นายอรรถไชย มณีศรี อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.เชิงทะเล จึงขออนุมัติต่อศาลจังหวัดภูเก็ตให้ออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อการหลบหนี หรือพ้นจากการจับกุม หรือรับของโจร"
ก่อนจะเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพและสำนึกในความผิด พร้อมสมัครใจที่จะติดตามเอานาฬิกาทั้ง 5 เรือนที่ตนนำไปขายต่อให้ผู้อื่นผ่านเพจดังกล่าวกลับมาให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งนายอรรถไชยยืนยันว่าผู้ซื้อไม่ทราบว่าเป็นของที่ตนลักมา จากนั้นผู้ต้องหาได้ประสานกับบิดาของตน ในระหว่างที่มาเยี่ยมลูกชายที่โรงพัก และผู้เป็นพ่อก็รับปากว่าจะไปติดตามนาฬิกาทั้งหมดมาคืน
ต่อมาพ่อของผู้ต้องหาได้นำนาฬิกาจำนวน 3 เรือน (รายการที่ 2-4) มาส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ และแจ้งว่าที่เหลือยังอยู่ระหว่างการติดตาม เนื่องจากได้ขายต่อไปให้ผู้ซื้อในต่างจังหวัด ซึ่งเมื่อตนได้รับนาฬิกาที่เหลือแล้ว จะนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการคืนให้กับเจ้าของต่อไป สำหรับตู้เซฟที่ถูกผู้ต้องหาลักไปนั้น ชุดสืบสวนได้ติดตามตรวจยึดได้จากร้านขายของเก่าในพื้นที่ ต.วิชิต พร้อมจัดทำบันทึกตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป