ตร.เร่งสืบข้อเท็จจริง หลังสาวพร้อมพวกโร่แจ้งความโดนตุ๋นขายสาริกาลิ้นทอง เสียหายนับล้านบาท

ภูเก็ต - เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 18 ก.ค.ที่ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหายกว่า 15 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน หลังอ้างว่าถูกหลอกให้ร่วมลงทุนขายวัตถุมงคลสาริกาลิ้นทอง

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 20 กรกฎาคม 2560, เวลา 10:22 น.

น.ส.ประวีณ์นุช จันทร์ประเสริฐ อายุ 33 ปี กล่าวว่า ตนเองเปิดร้านขายอาหารเช้าและรับจัดสวนอยู่ที่ปากทางเข้าวัดฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้นได้เห็นเพจเฟซบุ๊ก "Pumpuy Apple Shop-สาริกาลิ้นทอง” เมื่อหลายปีก่อนประกาศขายวัตถุมงคลชนิดต่างๆ โดยหนึ่งในวัตถุมงคลนั้นได้มีการอ้างว่านำเข้ามาจากประเทศเมียนมา คือ สาริกาลิ้นทอง ซึ่งเป็นไม้กฤษณาขาวและไม้อำพัน จึงได้สนใจและติดต่อซื้อสาริกา ราคา 3,900 บาท เพื่อนำมาบูชาเสริมสิริมงคล ต่อมาเพจดังกล่าวได้มีการประกาศเปิดรับตัวแทนแต่ละจังหวัด เพื่อจำหน่ายสาริกาและวัตถุมงคลต่างๆผ่านทางออนไลน์ จึงได้สมัครเพื่อเป็นตัวแทนประจำในพื้นที่จ.ภูเก็ต ซึ่งได้จ่ายเงินไป 35,918 บาท โดยได้สาริกาและวัตถุมงคลมาส่วนหนึ่ง

“จนกระทั่งเพจดังกล่าวได้ติดต่อมายังตนเอง เพื่อให้สมัครเป็นตัวแทนระดับวีไอพี แต่ต้องเสียค่าสมัครเพิ่มอีก 2 แสนบาท ซึ่งจะได้วัตถุมงคลเพิ่มเติม โดยตนเองตอบรับไป เนื่องจากในพื้นที่ จ.ภูเก็ตยังมีลูกค้าที่สนใจวัตถุมงคลดังกล่าวขณะเดียวกันเพจดังกล่าวได้มีโปรโมชั่นถ้าเปิดร้านขายสินค้าได้ จะมีการจัดส่งวัตถุมงคลเพิ่มเติมให้ครบทุกรุ่นอีก แต่ต้องจ่ายเงิน 1 ล้านบาท แต่ต่อมาเพจดังกล่าวได้แจ้งว่า ตนเองทำผิดกฎระเบียบ เพราะนำวัตถุมงคลบางอย่างไปใส่กรอบ จนกลายเป็นวัตถุมงคลที่ไม่ได้ผลิตจากเพจ จึงขับออกจากการเป็นตัวแทนและเป็นสมาชิก ทำให้ตนเองเสียหายกว่า 8 ล้านบาทในห้วงระยะเวลา 7 เดือน จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือที่ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมในเวลาต่อมา ซึ่งใน จ.ภูเก็ตยังมีผู้เสียหายที่ซื้อวัตถุมงคลดังกล่าวไปจากตนเองและจากเพจดัง กล่าวอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้ทุก สภ.ทั่วประเทศ”

ด้านนายอัจฉริยะเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 100 ราย ใน จ.ภูเก็ตนับสิบราย โดยเจ้าของเพจดังกล่าวยังอ้างว่าสาริกาทุกรุ่นแกะสลักจากไม้กฤษณาขาว แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆเสนอต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับทำบันทึกถึงนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบการเสียภาษี เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกรมสรรพากรได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เสียหายทั่วประเทศมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท

พ.ต.อ.วิฑูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตได้มอบหมายให้ตนเองมากำกับดูแลผู้เสียหายที่ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแต่ละ สภ.ในพื้นที่มาร่วมเป็นพนักงานสอบสวนรับคดีและสอบปากคำผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย เนื่องจากมีจำนวนมาก ซึ่งจากหลักฐานที่ผู้เสียหายได้นำมาเพื่อประกอบกับคดีในการแจ้งความนั้น เบื้องต้นมูลฐานความผิดอาจมี 2 ลักษณะที่เกี่ยวข้อง คือ ฉ้อโกงประชาชนและความผิดด้าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่