ตั้ง 3 ข้อหาหนัก นทท.เบลารุส เมาสุราอาละวาด ลูกเมียบินกลับก่อน

ภูเก็ต - เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 67 เวลา 03.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.กะรน ว่ามีชาวต่างชาติมีอาการเมาสุรา ประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ ขณะนี้กำลังอาละวาด ขอให้เดินทางมาตรวจสอบด้วย

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 11 ธันวาคม 2567, เวลา 23:14 น.

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบพบ นาย SIARHEI ASYCHUK อายุ 39 สัญชาติเบลารุส ได้แสดงอาการคุ้มคลั่งเมาสุราประพฤติตนวุ่นวายพยายามทำร้ายบุคคลที่เข้าใกล้ เจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อทำการจับกุมแต่ นทท.คนดังกล่าว แสดงอาการขัดขวางและต่อสู้ไม่ยอมให้มีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ภรรยาเข้าเกลี้ยกล่อมแต่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่ยอม กลับอาละวาดทำลายทรัพย์สินเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุม นำตัวมายัง สภ.กะรน โดยกล่าวหาว่า เมาสุราอาละวาด, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำให้เสียทรัพย์รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จากนั้นได้จึงนำส่ง พ.ต.ท.เอกศักดิ์ ขวัญหวาน สว.(สอบสวน) สภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และในวันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายัง สภ.กะรน จ.ภูเก็ต พบว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่ในห้องควบคุมผู้ต้องหาและในช่วงเช้าที่ผ่านมา ภรรยาพร้อมลูกอีกจำนวน 3 คน มาเยี่ยมผู้ต้องหาคือ นายเซียร์เฮ อซีชุก ซึ่งมีกำหนดการเดินทางกลับประเทศในวันนี้ ซึ่งทางตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้อำนวยความสะดวก

ด้าน พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน กล่าวว่าได้รับแจ้งในวันนี้เวลาตีสามกว่า ๆ ว่ามีชายชาวต่างชาติเกิดอาการคลุ้มคลั่ง เมาสุราอาละวาดบริเวณหน้าโรงแรม เลียบชายหาด หลังจากที่ได้รับแจ้ง ได้ส่งสายตรวจ 2 นายไปถึงที่เกิดเหตุ และประสบเหตุตามในคลิปพบชาวเบลารุสชื่อนายเซียร์เฮ อซีชุก มีภรรยา และลูกอีก 3 คนอยู่ในที่เกิดเหตุ เขาแสดงอาการเมาสุราไม่สวมใส่เสื้อผ้าใส่ชุดชั้นในตัวเดียวแสดงอาการคุ้มคลั่ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามระงับเหตุ โดยวางแผนละมุนละม่อม พอผู้ก่อเหตุเห็นมีเจ้าหน้าที่มาก็เริ่มมีอาการมากขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามใช้วิธีการจากเบาไปหาหนัก และทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุด้วยมือเปล่า ส่วนหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรอการสนับสนุนมา เพราะลักษณะของผู้ก่อเหตุใช้กำลังควบคุมแทบไม่ไหวต้องใช้กำลังเสริมมาถึงจะควบคุมตัวได้ และส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ต้องอยู่ห้องควบคุมตัวและแจ้งความเพิ่มเติม เมาสุราอาละวาด, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจ และประทุษร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจโทษสูงขึ้น

ลักษณะตำรวจคือตั้งหลักเพราะว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ถ้าทำอะไรที่รุนแรงไปก็จะมีผลกระทบได้ แต่ถ้ามีกำลังครบถ้วนแล้วก็ได้กำลังสนับสนุนเพิ่มเติม ใช้เวลาไม่นานประมาณ 10 นาทีในการควบคุมตัว การเดินทางของเขาสิ้นสุดวันนี้ (11 ธ.ค.67) ทางภรรยาและลูกจะกลับก่อน ส่วนผู้ก่อเหตุต้องดำเนินคดีในภูเก็ตน่าจะส่งศาลพรุ่งนี้

ตอนนี้อยู่ในห้องขังก็ไม่มีอาละวาดอะไร เพราะที่เกิดอาการคลุ้มคลั่งก็เพราะเมาสุรา เพราะคนพวกนี้มักจะมาท่องเที่ยวในบ้านเมืองเรา สนุกสนานกับชีวิตในการปฏิบัติซึ่งเราเมื่อเห็นนักท่องเที่ยวลักษณะกายภาพของเขาไม่มีอาวุธแล้วก็พยายามใช้กำลังเท่าที่มีอยู่ควบคุมตัว เราจะเห็นว่าเขาแข็งแรงมาก ถ้าทำอะไรที่รุนแรงไปก็อาจจะได้รับบาดเจ็บ ถ้าเขามีอาวุธหรือพยายามที่จะก่อเหตุที่รุนแรงมากขึ้น เราก็จะใช้เข้มข้นมากขึ้น พ.ต.อ.คุณเดช กล่าว


 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่