จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Poth Kantapong โพสต์คลิปภาพความเคลื่อนไหวความยาว 15 วินาที ขณะที่มีรถยนต์กระบะคันหนึ่งมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนแผงกั้นรั้ว และรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายกระโดดหลบรอดตายอย่างหวุดหวิด ก่อนที่รถจะชนขอบทางและหยุดนิ่ง พร้อมข้อความว่า
***รอดตายหวุดหวิด***เหตุเกิดเมื่อคืนครับ วันที่ 20 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 01.30 น.ผมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาเป็นหัวหน้าจุดตรวจหน้าเทศบาลเชิงทะเล ขณะตั้งจุดตรวจ ได้มีรถกระบะสีขาว ขับพุ่งชนด่านตรวจด้วยความเร็วสูง ชนแผงรั้วกั้นหน้าเทศบาลเชิงทะเล และรถจักรยานยนต์ตำรวจได้รับความเสียหาย เฉียดตัวผมไปนิดเดียว ผมหลบจนล้มลงเกือบเอาชีวิตไปสังเวยให้กับคนเมาสุราแล้วขับเพราะความคึกคะนอง สาเหตุ เพราะเมาสุราแล้วขับรถ ...ขอร้องนะครับ ถ้าเมาแล้ว กรุณาอย่าขับรถเลยนะ ให้คนที่ไม่เมาขับเถอะครับ คุณเห็นคลิปนี้แล้วคุณคิดยังไงบ้างครับกับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนถนน ที่จับคนเมาสุราแล้วขับรถ ถ้าเกิดกับคนในครอบครัวของคุณ แล้วคุณจะคิดยังไงครับ.. /ขอบคุณคลิปจาก ทต.เชิงทะเล
จากการสอบถามผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว ทราบชื่อ คือ ร.ต.ท.สุพจน์ กันตะพงษ์ รอง สวป.สภ.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าว ข่าวภูเก็ต ฟังว่า ช่วงเกิดเหตุ เวลาประมาณ 01.30 น. ของวันพฤหัสบดีขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจความมั่นคงอยู่บริเวณหน้า สนง. เทศบาลตำบลเชิงทะเล ถนนศรีสุนทร ม.1 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ปรากฏว่าได้มีผู้ขับขี่รถยนต์กระบะสีขาวมาจากพื้นที่ตำบลเชิงทะเล มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร พุ่งตรงเข้ามาที่ด่านด้วยความเร็ว โชคดีตนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายกระโดดหลบได้ทัน
ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ตำรวจที่จอดอยู่ริมถนน และรถไปหยุดอยู่บริเวณฟุตบาท ตรวจสอบภายหลังทราบว่าผู้ขับขี่มีอาการเมาสุรา และมีผู้โดยสารที่นั่งมาในรถซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วยได้รับบาดเจ็บหลายคน ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้นำส่ง รพ.ถลาง จากนั้นจึงได้ตั้งข้อหาคนขับรถกระบะคันดังกล่าวในความผิดฐาน เมาแล้วขับ และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย
ด้านพล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีดังหล่าวเช้าวันนี้ (21 ธ.ค. 61) ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการประชุม เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและเตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรมในช่วง 7 วันอันตราย ซึ่งจะรวมไปถึงการตั้งด่านด้วย
“วันนี้ในเวลาบ่าย 3 โมง จะมีการประชุมรเรื่องมาตรการป้องกันอันตรายในช่วง 7 วันอันตราย กับหัวหน้าสถานีในขังหวัดภูเก็ตทั้งหมด โดยจะมีการพูดถึงเรื่องการตั้งด่าน เพื่อให้แน่ในว่าทุกด่านจัดตั้งไฟชัดเจน ให้มองเห็นวาข้างหน้ามีด่าน เพราะในบางกรณีหากเจ้าหน้าที่ไม่ติดตั้งไฟให้ชัดเจนว่าข้างหน้ามีด่านคนที่ขับมาด้วยความเร็วสูงอาจจะไม่เห็น นอกจากนี้ทุกด่านจะต้องมีกำลังเจ้าหน้าที่พอเพียง และเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจค้นและสกัดกั้นทุกกรณี” พล.ต.ต.วิศาล กล่าว
