ปปง.บินยึด-อายัดทรัพย์โอเอ ทรานสปอร์ตกว่า 4.6 พันล้าน

ภูเก็ต - วันนี้ (21ธ.ค. 61) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองเลขาธิการฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. ร่วมกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงศ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่สรรพากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่ศาลแพ่งมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินในรายคดี นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี กับพวกรวมมูลค่ากว่า 4,600 ล้านบาท

เอกภพ ทองทับ

วันจันทร์ ที่ 24 ธันวาคม 2561, เวลา 18:30 น.

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า สำนักงาน ปปง.ได้บูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องตามนโยบายของรัฐบาล โดยในการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินในรายคดี นายธงชัย รุ่งโรจรังสี กับพวก หรือบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำ ฟ.158/2561 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 และคดีหมายเลขดำที่ ฟ.84/ 2561 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2561 ซึ่งมีคำสั่งให้เลขาธิการ ปปง.เป็นผู้ดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด

เช่น อาคารชุด โรงแรมหรูในจังหวัดชลบุรี บริษัทจำหน่ายเครื่องประดับและอัญมณีในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 97 รายการ มูลค่า 2,964 ล้านบาท เงินฝากในบัญชีธนาคาร จำนวน 30 รายการ มูลค่า 136 ล้านบาท และสลากออมสิน 2 รายการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดทรัพย์ ทั้งสิ้น 4,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ในคดีดังกล่าว สำนักงาน ปปง. ได้รับรายงานจากกรมสรรพากร ให้ดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากมีพฤติการณ์เข้าข่ายการกระทำความผิดในเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งกรมสรรพากรได้ตรวจสอบการชำระภาษีของบริษัทโอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 -2559 พบว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีเป็นวงเงินกว่า 7,000 ล้านบาท อันเป็นความผิดตามมาตรา 37 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งตามมาตรา37 ตรี แห่งประมวลรัษฎากรให้ถือว่าความผิดดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง.กล่าวเพิ่มเติมว่า ทรัพย์สินที่อายัดในครั้งนี้ สำนักงานปปง.จะดำเนินการบริหารจัดการทรัพย์สินตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินต่อไป ทั้งนี้หากประชาชนพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ปปง.ได้ที่สายด่วน ปปง.1710

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่