โดยมี นายธนัฎ สุขรมย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ นายโสภณ ทองไสย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยกงสุลอออสเตรเลีย รัสเซีย เนปาล หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี
นายธนัฏ กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีภารกิจหน้าที่เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์สาธารณภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ได้บูรณาการข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งจากหน่วยงานภายในประเทศ และหน่วยงานระหว่างประเทศ เพื่อนำผลข้อมูลมาวิเคราะห์ ประมวลผล และประเมินสถานการณ์การเกิดภัยพิบัติ จากนั้นจะได้แจ้งเตือนภัยไปยังหน่วยงานระดับ จังหวัดท้องถิ่น และประชาชนผ่านทุกช่องทางการแจ้งเตือนภัยตามระเบียบปฏิบัติประจำ (Standard Operating Procedure- SOP) มุ่งหวังให้เกิดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติให้กับประชาชน รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีข้อมูลสำหรับวางแผนรับมือสถานการณ์วิกฤตและบริหารจัดการภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารจัดการในการแจ้งเตือนภัยจากคลื่นสึนามิ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเหตุการณ์คลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนได้ตระหนัก และให้ความสำคัญต่อภัยสึนามิ โดยเฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน การวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดีย เป็นกลไกการสร้างโครงข่ายการเฝ้าระวังและเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าให้กับประเทศชายฝั่งรอบมหาสมุทรอินเดีย เพื่อให้ประชาชนในภูมิภาคนี้มีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจน สามารถเตรียมความพร้อมในการอพยพได้อย่างทันท่วงที และสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวเมื่อเกิดคลื่นสึนามิระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิที่ดำเนินการติดตั้งครั้งนี้ เป็นการวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ จำนวน 2 ทุ่นในบริเวณมหาสมุทรอินเดีย ระยะห่างจากเกาะภูเก็ต ประมาณ 965 กิโลเมตร และวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามัน ประมาณ 340 กิโลเมตร
ด้านนายกองเอก กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบวิเคราะห์คาดการณ์ล่วงหน้า และระบบแจ้งเตือนภัยคลื่นสึนามิของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดีย จะเป็นกลไกสำคัญในการแจ้งเตือนภัยสึนามิให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และสามารถเตรียมความพร้อมในการอพยพได้อย่างทันท่วงทีสร้างความปลอดภัยแก่ชีวิตประชาชน โดยระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิหรือทุ่นสึนามิที่กำลังจะดำเนินการติดตั้งครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และขอฝากให้หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน สถานประกอบการอาสาสมัคร เครือข่าย ชาวประมง พี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่อง ดูแล รักษา หวงแหนในระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิ รวมถึงหอเตือนภัยและอุปกรณ์เตือนภัยในพื้นที่ เพื่อให้ระบบและอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด