ผู้การเผยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจ 15 นาย เกี่ยวข้องคดีต่างด้าว 142 ราย

ภูเก็ต - พลตำรวจโท สรศักดิ์ แย้มเปรม รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 มีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2560ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงกรณี นายตำรวจระดับสารวัตรและรองสารวัตร ต้องสงสัยทำผิดวินัย โดยให้รายงานภายใน 7 วัน ผู้การชี้น่าจะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2560, เวลา 14:45 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

วันนี้ (10 พ.ย. 60) พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกรณีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนฯ ข้อสงสัยว่านายตำรวจทั้ง 15 นาย อาจจะกระทำผิดวินัย โดยอ้างถึงคำสั่ง ที่ 525/2560 ระบุว่า ตำรวจภูธรภาค 8 มีคำสั่งลงวันที่ 31 ต.ค. 60 ให้ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตตรวจสอบข้อมูลบุคคลต่างด้าวซึ่งต้องหาคดีอาญาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2559 – 31 ต.ค. 2560 ว่ามีจำนวนกี่คดี อะไรบ้าง โดยให้ระบุเลขคดี ชื่อผู้ต้องหา วันเวลา สถานที่เกิดเหตุ รวมถึงร้อยเวรสืบสวนผู้รับผิดชอบคดี

ซึ่งตามรายงานของตำรวจภูธรภูเก็ต ปรากฏว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต พบว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวรวมจำนวน 142 ราย ไม่มีหลักฐานรับตัวผู้ต้องหาของ ตม.ภูเก็ต แต่อย่างใด พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0029.123/ว.87 ลงวันที่ 12 พ.ย. 2558 เรื่องแนวทางการปฏิบัติกรณีต่างด้าวตกเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาในคดีอาญาหรือถึงแต่ความตายโดยผิดธรรมชาติ ประกอบกับผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 ได้รับคำสั่งการจาก พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีดังกล่าว

“ขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยท่านพล.ต.อ. ศรีวราห์ มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนกรณีดังกล่าว และได้กำชับมาว่าต้องกระทำการอย่างเข้มงวด ซึ่งตอนนี้เรายังไม่ได้พิสูจน์ว่าเจ้าหน้าที่ ทั้ง 15 นายนั้นกระทำผิดจริงหรือไม่ มีการทุจริตหรือบกพร่องอย่างอื่นหรือไม่ ก็ยังไม่แน่ชัด” พล.ต.ต. ธีระพล กล่าว

โดย คำสั่งดังกล่าวได้ระบุรายชื่อข้าราชการตำรวจจำนวนทั้งสิ้น 15 นาย ซึ่งมียศตั้งแต่ ร้อยตำรวจโท ถึงยศสูงสุด พันตำรวจโท ตำแหน่งสารวัตร และรองสารวัตร จากสถานีตำรวจภูธรกมลา, สาคู, เมืองภูเก็ต, กะรน และกะทู้

“คดีต่างด้าวทั้ง 142 ราย เกี่ยวพันกับพนักงานสอบสวน 15 คน และการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงนั้นต้องใช้เวลา เนื่องจากการไม่ได้ผลักดันออกมันยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง เราต้องดูที่ข้อเท็จจริงในแต่ละคดี รวมทั้งระเบียบ และคำสั่งต่างๆ ทั้งนี้เราได้รับคำสั่งให้รายงานเรื่องนี้ภายใน 7 วัน แต่คาดว่าน่าจะไม่แล้วเสร็จ คิดว่า คณะกรรมการฯน่าจะใช้เวลาเต็มที่ไม่น่าเกิน 1 เดือน เพราะเรามีพยาน เอกสาร ตัวบุคคลก็ยังอยู่ในพื้นที่และยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ” พล.ต.ต. ธีระพล กล่าว

รายงานเพิ่มเติม: ธัญลักษณ์ สากูต

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่