หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต, พ.ต.ท.อรรถวัฒน์ สุวรรณรัตน์ รองผกก.สส.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดเจ็ดอินย่านเมืองเก่าภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินผ่านไปมา และที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้านฝั่งตรงกันข้ามเป็นจำนวนมาก ยืนมองดู โรงแรมอิมพีเรียล ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ และล่าสุดได้กลายเป็นโรงแรมร้างเมื่อช่วงโควิด ซึ่งโรงแรมดังกล่าวอยู่ในความดูแลของเทศบาลนครภูเก็ต
ตรวจสอบบนหลังคาชั้น 1 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นสาวไทย สภาพศพนอนหงาย ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.รัชนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นคนเร่ร่อน สติไม่ดี พักอาศัยอยู่ในตึกดังกล่าวบนชั้น 3 นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณดังกล่าว ลักษณะคว่ำหน้าในท่าทางคล้ายตกลงมาจากหน้าต่างชั้น 3 ของอาคาร คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน
จากการสอบถามพลเมืองดีได้ความว่า เมื่อประมาณ 3 วันที่แล้ว เห็นผู้ตายเต้นอยู่บริเวณชั้น 3 ของอาคาร ก่อนจะเห็นผู้ตายนอนอยู่ในท่าทางเดิมในเวลาประมาณ 19.00 น. หลังเห็นว่านอนอยู่ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 13.00 น. จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานแพทย์นิติเวช รพ.วชิระภูเก็ต ร่วมชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย จากนั้นประสาน จนท.มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำส่งร่างไปที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดต่อไป
สอบถาม นายภูมิน จูไหล อายุ 19 ปี เล่าว่า ตนรับประทานอาหารอยู่บนชั้นดาดฟ้าแล้วมีลูกค้าต่างชาติมองมาเห็น และบอกพนักงานด้านบนให้แจ้งตำรวจ และพวกตนออกมาดูเห็นพอดี ก่อนหน้านั้นไม่ได้สังเกตอะไร ตึกนี้น่าจะร้างมานานและจะมีคนเร่ร่อนอยู่