เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (20 พ.ย.) พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก. สภ.เชิงทะเล รับแจ้งว่ามีผู้ต้องหาคดีครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ น้ำหนัก 0.4 กรัม หลบหนีขณะขอตัวเข้าห้องน้ำ ทราบชื่อคือนายธรรมวุฒิ ปะหนัน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.2 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งถูกจับเมื่อคืนที่ผ่านมา (19 พ.ย.) ขณะตำรวจงานป้องกันและปราบปรามตำรวจภูธรเชิงทะเลตั้งด่านตรวจในพื้นที่ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ชุดปราปรามของ สภ.เชิงทะเล ได้ติดตามตัวอย่างกระชั้นชิด
พ.ต.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เห็นภาพคนร้ายสวมเสื้อสีดำ สวมกางเกงสีดำ สวมรองเท้าแตะ วิ่งหลบหนีไปทางประตูด้านหลังของ สภ.เชิงทะเล ในเวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปิดล้อมบริเวณป่าละเมาะ ใกล้สถานที่ก่อสร้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พร้อมทั้งส่งภาพถ่ายคนร้ายให้แก่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดูแลบริเวณดังกล่าว รวมถึงชาวบ้านให้ช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่อเป็นหูเป็นตาหากเจอบุคคลตามภาพให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบในทันที
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่บางส่วนก็ได้เดินทางไปยังบ้านของนายธรรมวุฒิ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหาต้องกลับบ้าน เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบนายธีรยุทธ ปะหนัน พ่อนายธรรมวุฒิ (ผู้ต้องหา) บอกว่าขณะนี้นายธรรมวุฒิอยู่ภายในบ้านและจะนำตัวไปส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภ.เชิงทะเล จากนั้นเวลา ประมาณ 12.30 น.นายธีรยุทธ ก็ได้นำตัวบุตรชายที่หลบหนี มามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.อ.อกนิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นายธรรมวุฒิถูกเจ้าหน้าที่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เชิงทะเล จับกุมตัวได้เมื่อคืนที่ผ่านมา จากนั้นในช่วงเช้า ร.ต.อ.ญาณภัทร มาลัย รอง สว.สอบสวน ได้เบิกตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำในระหว่างที่กำลังสอบปากคำอยู่นั้น นายธรรวุฒิแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่า ขอตัวเข้าห้องน้ำเพราะปวดท้องเบา เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นใจจึงอนุญาตให้เข้าห้องน้ำ”
“ก่อนจะพบว่าผู้ต้องหาใช้เวลานานผิดสังเกต พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบเห็นรอยเท้าของผู้ต้องหาเหยียบบริเวณของที่นั่งโถห้องน้ำ และเหยียบที่กดชักโครก กระจกบานเลื่อนในห้องน้ำเปิดอยู่ แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา คาดว่าได้หลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามในเส้นทางที่คาดว่าคนน่าน่าจะหลบหนี รวมทั้งประสานไปที่บ้านของผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหาได้กลับบ้าน จากนั้นพ่อของผู้ต้องหาก็ได้นำตัวบุตรชายกลับมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหลังจากนี้ต้องมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะเกิดซ้ำรอยอีก” พ.ต.อ.อกนิษฐ์ กล่าว