สอบถามเพิ่มเติมทราบว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งประมาณ 8 – 10 คนซึ่งคาดว่าเป็นชาวจีน ซึ่งได้เดินทางมาท่องเที่ยวเกาะราชาด้วยเรือสปีดโบ๊ทชื่อ Hantalay Marine 888 ได้ลงดำน้ำสน็อกเกิ้ลบริเวณท้ายเรือสปีดโบ๊ทในขณะที่เรือกำลังจอดลอยลำที่หน้าอ่าวหลาซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะราชาก่อนที่กลุ่มนทท.บางส่วนจะดำลงไปจับปลาดาวหรือดาวทะเลสีแดงส้มขนาดใหญ่ก่อนจะนำขึ้นมาบนเรือ
ด้านนายสุชาติรัตนเรืองสีผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) กล่าวว่าได้รับรายงานปัญหาดังกล่าวแล้วขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่สบทช.6ซึ่งประจำอยู่บนเกาะสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมทราบว่ากลุ่นทท.ได้จับดาวทะเลขึ้นมาถ่ายภาพจริงแต่ได้ปล่อยกลับสู่ทะเลในภายหลังจึงได้เตรียมประสานไปยังเรือลำดังกล่าว (Hantalay Marine) เพื่อตักเตือนและแจ้งกำชับให้ปฏิบัติตามประกาศกรมทช.อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ตามปกติเรือทุกลำที่มาจอดหน้าอ่าวทั้ง 3 อ่าวของเกาะราชานั้นไกด์จะต้องมีการพานทท.ทุกคนลงจากเรือเพื่อขึ้นไปยังจุดรวมพลเพื่อทำการอธิบายข้อกำหนดในการลงเล่นน้ำที่สบทช.6 จัดทำไว้ทุกครั้งซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสบทช.6 ร่วมสังเกตุการณ์ซึ่งหากขึ้นไปฟังข้อมูลยังจุดดังกล่าวแล้วเชื่อว่าไม่น่าจะกล้ากระทำผิดเนื่องจากระบุความผิดไว้ชัดเจนสำหรับกลุ่มนี้อาจจะเช่าเรือมาโดยไม่มีไกด์และอาจจะลงเล่นน้ำในทันทีโดยไม่มีการขึ้นไปรับทราบข้อมูลบนฝั่งซึ่งในแต่ละวันที่อ่าวทั้งสามอ่าวของเกาะราชามีเรือนำเที่ยวเข้าจอดนับร้อยลำทำให้เป็นอุปสรรคว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงไปดูแลได้อย่างทั่วถึงจึงทำให้เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้น
นายสุชาติกล่าวเพิ่มเติมว่าในแต่ละวันเจ้าหน้าที่พบการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวเป็นจำนวนมากแต่ส่วนใหญ่จะต้องใช้วิธีการตักเตือนเนื่องจากบางครั้งยังไม่เข้าข่ายความผิดตามกฏหมายเพราะยังไม่เกิดความเสียหายเช่นที่ผ่านมาก็เคยมีหลายคดีที่ศาลฯพิจารณาสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากพยายานหลักฐานอ่อนจึงต้องนำมาเป็นกรณีศึกษาส่วนรายไหนที่เกิดความเสียหายหรือเข้าข่ายความผิดชัดเจนก็จะไม่มีการงดเว้น
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่าทำไมกัปตันและพนักงานบนเรือลำดังกล่าวไม่ยอมตักเตือนกลุ่มนทท.เหล่านั้น ทั้งที่ทราบดีว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย