นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ภูเก็ตจะต้องกักตัว 14 วันในสถานที่ที่กำหนด (ALSQ) โดยทางโรงแรมจะทำข้อตกลงกับโรงพยาบาล เพื่อให้มีทีมแพทย์ตรวจคัดกรองโรค 2 ระยะ คือช่วง วันที่ 3-5 และช่วงวันที่ 11-13 เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดจากเชื้อโควิด-19
นอกจากนี้กลุ่มผู้ที่จะเดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต จะต้องได้รับอนุญาตจากสถานทูตไทยในประเทศต้นทาง และยอมรับเงื่อนไขในการเข้ามาแล้วต้องกักตัวเอง 14 วัน ณ สถานที่ที่กำหนด ตลอดจนผ่านการตรวจสุขภาพว่าปลอดจากโควิด -19 ก่อนเดินทาง 72 ชม. หรือมี FIT TO FLY และ Covid free พร้อมทั้งต้องมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพ 100,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อมั่นใจว่าหากเดินทางเข้ามาแล้วป่วยจะมีเงิน ในการดูแรักษา
“ขณะนี้ทางจังหวัดได้เตรียมทดสอบระบบมาตรฐานของโรงแรม มาตรการรักษาความปลอดภัย ทีมแพทย์ พยาบาล ทหาร ตำรวจ และภาคส่วนที่เกี่ยวเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานให้เกิดประประสิทธิภาพสูงสุดเป็นไปตามมาตรฐาน และมาตรการที่ศบค.กำหนด” นายพิเชษฐ์ กล่าว
นายแพทย์ธนิศ เสริมแก้ว นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตเตรียมมาตรการ 5 T รองรับการเป็นจังหวัดนำร่องที่จะรับนักท่องเที่ยว หรือกลุ่มคนที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ตามที่ ศบค.กำหนด มีดังต่อไปนี้
T : Target การกำหนดกลุ่มที่เดินทางเข้ามาโดยศบค. และเลือกสถานที่กักตัว หรือ ALSQ
T : Testing การคัดกรองตรวจหาเชื้อที่ต้นทางและที่สนามบินภูเก็ต
T : Tracing การติดตามโดยมีแอปพลิเคชั่นตามตัว สามารถติดตามได้แบบเรียลไทม์
T : Treatment การดูแลรักษา มีบุคลากร เครื่องมือ เวชภัณฑ์ยาที่เพียงพอ
T : Trust เป็นการสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจโดยมีการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้ทุกภาคส่วน รวมทั้งชาวต่างชาติ เข้าใจว่าภูเก็ตมีความพร้อม มีการเตรียมการที่ดี มีมาตรฐาน ในการกำกับดูแล ป้องกัน และ เฝ้าระวังอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งจะมีการตั้งกองทุน เพื่อช่วยดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกด้วย
“ภายใต้มาตรการ 5 T ขอยืนยันว่าภูเก็ตมีความพร้อมที่จะเป็นจังหวัดนำร่อง ในการรับผู้ที่จะเดินทางมาจากต่างประเทศตามที่ศบค.กำหนด เพื่อกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ควบคู่ไปกับความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน” นายแพทย์ธนิศ กล่าว
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต