ภูเก็ตเตรียมถอดบทเรียนไฟไหม้ซูเปอร์ยอช์ท ขอเรือดับเพลิง 2 ลำ แต่ยังไม่อนุมัติ

ภูเก็ต – วานนี้ (8 ส.ค. 62) เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พลเรือตรี วิธนรัชต์ คชเสนี รอง ผบ.ทรภ. 3, นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ เลี่ยมสุวรรณ ผกก.สภ.ถลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าว การช่วยเหลือดับเพลิงเรือซูเปอร์ยอช์ท LADY D ขณะจอดที่ท่าเทียบเรืออ่าวปอแกรนด์มารีน่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 9 สิงหาคม 2562, เวลา 14:42 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

นายสุพจน์ กล่าวว่า สำหรับเรือที่เกิดเพลิงไหม้เป็นเรือสัญชาติอังกฤษ ชื่อเรือ LADY D สัญชาติอังกฤษ มีขนาดความยาว 179 ฟุต 1,285 ตันกรอส น้ำหนักบรรทุก 385 ตัน มี นายเทด แบลงเกอร์ สัญชาติแคนาดาเป็นกัปตันเรือ จอดเทียบ ณ อ่าวปอแกรนด์มารีน่า ป่าคลอก อ.ถลาง จุดที่เรือเกิดเพลิงไหม้แวดล้อมไปด้วยเรือที่มีมูลค่าสูงจำนวนมากจอดอยู่ และจุดที่เรือลำน้ำจอดอยู่เป็นจุดที่มีหัวจ่ายปั๊มน้ำมัน ประกอบกับในเรือลำเกิดเหตุซึ่งได้รับแจ้งว่ามีน้ำมันอยู่ราว ๆ 150,000 ลิตร

และขณะนั้นไฟกำลังโหมไหม้เรืออย่างรุนแรง จึงสั่งการให้ชักจูงเรือลำเกิดเหตุออกไปกลางทะเล ไปที่เกาะทะนาน เป็นจุดที่มีความปลอดภัยไม่กีดขวางทางเดินเรือ เพื่อป้องกันอันตรายกับเรือลำอื่น ๆ

เพลิงเริ่มสงบลงในเช้าวันที่ 8 ส.ค.เวลา 04.30 น. (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ส่วนการเก็บน้ำมันเรือในลำนี้แจ้งคือ 150,000 ลิตร การดับเพลิงใช้โฟมจากปตท. และบู๊ทป้องกันน้ำมันรั่ว ทางทัพเรือภาคที่ 3 ส่งกำลังร่วมสนับสนุนทั้งหมด การที่ใช้โฟมกับบูทมากันน้ำมันรั่ว ทำให้ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ทางชุดผจญเพลิงของเทศบาลต่าง ๆ ได้ขึ้นไปตรวจสอบเรือพบว่าเสียหายทั้งหมด เนื่องจากถูกเพลิงเผาเป็นเวลานาน ทางจังหวัดขอบคุณทุกภาคส่วนที่สนับสนุน ส่วนการสอบสวนอยู่ในขั้นตอนของตำรวจดำเนินการ

นายสุพจน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้เรือครั้งนี้ พบมีจุดอ่อนหลายจุดในการเข้าระงับเหตุการณ์ ซึ่งจะต้องมีการนำเหตุการณ์ไฟไหม้เรือดังกล่าวถอดออกมาบทเรียน ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในวันอังคารที่จะถึงนี้ สิ่งที่เห็นชัดเจน คือเราไม่มีเรือดับเพลิง ทั้ง ๆ ที่มีเรือมาท่องเที่ยวรวมเกือบหมื่นลำ ภูเก็ตจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นให้เกิดความปลอดภัย แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งภูเก็ตทำรายได้เข้าประเทศกว่า 4 แสนล้านบาท สูงอันดับสองรองจากกรุงเทพมหานคร ตอนนี้ทางจังหวัดอยู่ระหว่างทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ โดยได้ขอซื้อเรือดับเพลิงไปจำนวน 2 ลำ ในงบกว่า 50 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงขอให้ช่วยพิจารณาในเรื่องเรือดับเพลิงด้วย

นายประพันธ์ กล่าวเสริมว่า สืบเนื่องจากเรือฟีนิกซ์ล่ม มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิต 47 ราย จากเหตุการณ์ครั้งนั้น รัฐบาลสั่งการให้มีการเตรียมพร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จึงนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงงบประมาณปี 62 ภายใต้โครงการเตรียมความพร้อมรับภัยพิบัติจังหวัดภูเก็ต วางแผนให้มีจุดบริการนักท่องเที่ยวรอบเกาะภูเก็ต กำหนดไว้ 4 จุด ที่ ท่าเรืออ่าวฉลอง ท่าเรืออ่าวปอ ท่าเรือบางเทา และท่าเรือป่าตอง ในแต่ละจุดกำหนดให้มีเรือตรวจการณ์ 1 ลำ เรือดับเพลิง เรือพยาบาล ทุกสถานีจะบูรณาการร่วมท้องถิ่นในพื้นที่ ได้เสนอตามขั้นตอนทางสภาพัฒน์เห็นชอบแต่สำนักงบฯ ยังไม่อนุมัติในงบประมาณ กว่า 50 ล้านบาท

พล.ร.ต.วิธนรัชต์ กล่าวว่า หลังจากทราบเหตุเพลิงไหม้ ทางทัพเรือภาคที่ 3 โดย พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษ ผบ.ทรภ.3 ได้สั่งการให้จัดเรือตรวจการณ์ชายฝั่งต. 232 เข้าปฏิบัติในที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือตามศักยภาพที่มีและกำลังพลจากกองร้อยฯ ทัพเรือภาคที่ 3 ช่วยสนับสนุนในการดับเพลิง และรับบูมจากปตท.ขึงโดยรอบบริเวณเรือป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันแพร่กระจายออกไป และใช้เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ของเรือ ต.113 และเรือหลวงศรีราชา นำเครื่องสูบน้ำพร้อมกำลังพลสนับสนุนทำให้เพลิงสงบลงได้ในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับพนักงานสอบสวนในคดีนี้ ได้ตรวจที่เรือพบว่าจุดที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ในห้องนั่งเล่น ชั้น 1 มีทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่กำลังเก็บหลักฐานตามขั้นตอน

นายฉัตรเชษฐ์ ทองฤกษ์ เจ้าพนักงานตรวจเรือ สำนักงานเจ้าท่าภูเก็ต กล่าวว่า เรือเข้ามาถูกต้อง มีการใช้ท่าเรือถูกต้องทุกอย่าง เข้ามาหลายปีแล้ว ใน ช่วง 6 เดือนจะเข้ามาครั้งหนึ่งนำเรือออกไปท่องเที่ยวและเข้ามาจอดไว้ที่เดิม เจ้าของเรือเป็นคนต่างชาติทำธุรกิจเกี่ยวกับเรือสินค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับเจ้าของเรือลำนี้ ความเสียหายของเรือ พบว่าตัวเรือยังใช้การได้ แต่อุปกรณ์ข้างในเรือต้องซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด และเรือลำนี้มีประกันภัยที่รับผิดชอบ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่