ตลอดจนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากร่องน้ำบริเวณท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตที่มีสภาพตื้นเขิน ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือเข้า-ออกของเรือประมง โดยเฉพาะการขนถ่ายปลาทูน่าจากเรือประมงนานาชาติ เช่น ไต้หวันและฮ่องกง
รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะผู้แทนภาคประมงและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน (เรือปลากะตัก) ผู้แทนชาวประมงพาณิชย์ และผู้แทนภาคธุรกิจประมง เช่น บริษัทพรานอันดามันทราเวล จำกัด บริษัทซีแองเจิลครุยซ์ จำกัด บริษัทโรงน้ำแข็งโชคเจริญชัย จำกัด รวมถึงผู้ประกอบการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตัวแทนภาคประมงและผู้ประกอบการได้ร่วมเสนอความคิดเห็น และหารือถึงแนวทางการพัฒนาแหล่งขนถ่ายปลาทูน่าในภูเก็ต เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และส่งเสริมศักยภาพในระดับสากล
นายอัครา กล่าวว่า การปรับปรุงและพัฒนาท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสนับสนุนอุตสาหกรรมประมงและการส่งออก โดยที่ผ่านมา องค์การสะพานปลาได้รับงบประมาณสำหรับโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือประมงภูเก็ตในปี 2548 และ 2561 เพื่อปรับปรุงสุขอนามัยและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ทั้งนี้ องค์การสะพานปลาได้เสนอให้มีการขุดลอกร่องน้ำและก่อสร้างผนังเขื่อนกันดินสไลด์ เพื่อแก้ปัญหาการตื้นเขินและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับเรือประมงขนาดใหญ่
นอกจากนี้ แผนพัฒนาท่าเทียบเรือในอนาคตยังมุ่งเน้นการส่งเสริมมาตรฐานสุขอนามัยระดับสากล ยกระดับการขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำ และสนับสนุนอุตสาหกรรมปลาทูน่าเพื่อครัวไทยสู่ครัวโลก โดยคาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 18,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวประมงและประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน
รมช.เกษตรและสหกรณ์ย้ำว่า กระทรวงฯ จะดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยยึดความต้องการของประชาชนและผู้ประกอบการเป็นสำคัญ พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมประมงในภูเก็ตให้เติบโตอย่างมั่นคง
-สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
