เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยช่วงบ่ายวันที่ 3 ส.ค. ได้เดินทางไปยังภูเก็ตโบ๊ทลากูน โดยมี นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายสุพจน์ รอดเรือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม พร้อมกล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อมารับฟังปัญหาอุปสรรคจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งทางทะเลทางบก ผู้ประกอบธุรกิจการโรงแรมและที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปหารือและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการแก้ไขและขับเคลื่อน งานด้านการท่องเที่ยว ให้บรรลุและเกิดประสิทธิผล เนื่องจากภาคบริการและท่องเที่ยว เป็นภาคหลักที่จะนำเงินเข้าประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลตั้งเป้าในอีก 2 ปีข้างหน้า ต้องให้มีรายได้จากการท่องเที่ยว 30 เปอร์เซ็นต์ ของ GDP ดังนั้นทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว จึงต้องช่วยหาแนวทางและขับเคลื่อน เพื่อให้ธุรกิจการท่องเที่ยวมีความเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างแท้จริง
รมว.กก.ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ได้รับฟังปัญหาอุปสรรคจากผู้เกี่ยวข้องว่า โดยภาพรวมยอมรับว่าภูเก็ตไม่ได้ซบเซา เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องอาจจะซบเซาลงบ้าง แต่ไม่มากดังที่เป็นข่าว โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์ชาวจีน เพราะขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตมากขึ้น ข้อมูลจากการท่าอากาศยานภูเก็ต รายงานว่า มีเครื่องบินเช่าเหมาลำเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
ทางกระทรวงการท่องเที่ยวพร้อมที่จะสนับสนุนให้จังหวัดภูเก็ตและฝั่งอันดามัน มีการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 365 วัน ไม่มีช่วงไฮซีซั่นหรือช่วงโลว์ซีซั่น ซึ่งได้มอบหมายให้จังหวัดนำเสนอ การสร้างท่าจอดเรือ รองรับเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่เรือครุยส์ เพื่อให้ภูเก็ตเป็น ศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางทะเล (Hub) มีเส้นทางท่องเที่ยวจากภูเก็ต ปีนัง มะละกา สิงคโปร์ กลับมาที่สงขลาและพัทยาซึ่งเส้นทางท่องเที่ยว เพื่อประเทศไทยจะได้รับผลประโยชน์ทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย นอกจากนี้ นายพิพัฒน์สร้างความมั่นใจว่า ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
จากนั้นจึงได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ฟุตบอล 7 คน สานสัมพันธ์กะตะกะรนคัพ ต้านยาเสพติด ครั้งที่ 13 ประจำปี 2562 ณ สนามกีฬาเทิดพระเกียรติ นวมินทร์ และเดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดพร้อมชมการสาธิตการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ของทีมไลฟ์การ์ด ณ บริเวณหาดป่าตอง และบริเวณถนนบางลา สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อความบันเทิงยามค่ำคืนชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต
ซึ่งภายหลังจากการลงพื้นที่ถนนบางลา นายพิพัฒน์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงแผนการโปรโมทจังหวัดภูเก็ตว่า “แนวทางหลักของกระทรวงฯ คือเน้นในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด และรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้มีความมั่นใจว่ารัฐบาลเรามาจากการเลือกตั้ง 100% และเป็นปราชาธิปไตย 100% เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องมีความมั่นใจในการมาเที่ยวเมืองไทย ทั้งนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวเคยห่างหายไปเช่นกลุ่มอียู ก็น่าจะกลับมาท่องเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น”
นอกจากนี้ทางกระทรวงฯจะได้พูดคุยกับกระทรวงคมนาคม ในส่วนของการอำนวยความสะดวกตารางเครื่องบินเช่าเหมาลำ เพื่อที่จะให้ได้ลงในเวลาที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้ เงินสะพัดในจังหวัดภูเก็ต รมว.กก.ยังเชื่อว่ามีการใช้สอยยังไม่ได้ลดน้อยลง ส่วนประเด็นการขยายเวลาสถานบริการในภูเก็ตโดยเฉพาะถนนบางลานั้น ส่วนตัวแล้วอยากจะให้ขยายออกไปถึงตี 4 เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต
“การจะขยายเวลา ทางกระทรวงฯของเราเตรียมการที่จะหารือกับท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในส่วนของการขยายเวลาให้กับสถานที่ท่องเที่ยว แต่จะเป็นการขยายเวลาเป็นบางจุด ไม่ใช่ทั้งประเทศ อาจจะเป็นตี 2 หรือตี 4 ใจจริงผมอยากจะได้ถึงตี 4 เพราะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปออกมาทานข้าวก็ประมาณ 3-4 ทุ่มแล้ว กว่าจะเริ่มดื่มปิดเที่ยงคืน ความเสียหายมันก็เกิดแก่เรา” นายพิพัฒน์ กล่าวขณะให้สัมภาษณ์
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ตภาพ