เมื่อวันที่ 24 พ.ย.67 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดตัวโครงการ “Phuket Old Town Carbon Neutrality 2030” อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วย โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, นายกเทศบาลนครภูเก็ต, ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมากชน), ประธานมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน พร้อมผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น และผู้นำองค์กรเอกชนเข้าร่วมที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี (ลานมังกร)
ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ริเริ่มโดย มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน และได้รับการขับเคลื่อนร่วมกันจาก เทศบาลนครภูเก็ต สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) และ ชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งเป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่าง ภาคราชการ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อสร้างต้นแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการท่องเที่ยวในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการขยะอย่างเป็นระบบ บนพื้นฐานการส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน การพัฒนาระบบขนส่งคาร์บอนต่ำ และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันย่านเมืองเก่าภูเก็ตให้ก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 พร้อมสร้างแบบอย่างด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนให้กับพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งจังหวัดภูเก็ต จะเป็นพื้นที่แรกในประเทศไทยที่มีการวางแนวทางในการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน ได้สนับสนุนถุงแยกขยะจำนวน 4 สีคือ สีฟ้า สำหรับขยะที่ทางเทศบาลนครภูเก็ตจะดำเนินการกำจัดโดยเตาเผาขยะ สีเขียวคือ ขยะอินทรีย์ ที่ทางเทศบาลนครภูเก็ต จะดำเนินการจัดเก็บเพื่อนำไปกำจัดด้วยเครื่องย่อยขยะอินทรีย์ สีเหลืองสำหรับขยะที่สามารถนำไปแปรรูปได้ และสีชมพูคือ ไขมันในถังดักไขมัน
ขณะเดียวกัน สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มีระบบอัจฉริยะในการนับจำนวนยานพาหนะรอบย่านเมืองเก่า เพื่อสามารถคำนวนปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จากยานพาหนะ รวมถึงการเชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักควบคุมมลพิษด้านค่าน้ำเสีย และข้อมูลขยะจากเทศบาลนครภูเก็ต ทำให้ผู้บริหารเมืองจะมองเห็นปริมาณขยะ ปริมาณคน และปริมาณยานพาหนะแบบ Real Time เพื่อการจัดการต่อไป รวมถึงมูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืนได้จัดซื้อเครื่องย่อยขยะอินทรีย์ และติดตั้งในเขตย่านเมืองเก่า ซึ่งจะทำให้ลดปริมาณชยะอินทรีย์ที่นำไปฝังกลบลงได้อย่างน้อยวันละ 400 กิโลกรัม
หลังจากนั้น นายสรวงศ์ได้เยี่ยมชมชุมชนย่านเมืองเก่า โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นำให้การต้อนรับพร้อมรายงานความคืบหน้าและแนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่
นายสรวงศ์ได้เยี่ยมชมการจัดการขยะเปียกในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีเยาวชนในพื้นที่ร่วมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนย่านเมืองเก่า ภูเก็ตได้รับการยกย่องเป็นต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ โดยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางอย่างมีความรับผิดชอบและสนับสนุนความยั่งยืน ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ นายสรวงศ์ได้เดินเท้าเพื่อลดการสร้างมลพิษ พร้อมชมความงดงามของสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตในชุมชน โดยได้เยี่ยมชมบ้านเลขที่ 92 พร้อมร่วมกิจกรรมผัดหมี่ฮกเกี้ยนและทำขนมอังกู ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์
ขณะเดินสำรวจถนนถลางและซอยรมณีย์ ได้พบปะและทักทายนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง ทั้งนี้ การเยี่ยมชมครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของกระทรวงในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของจังหวัดภูเก็ต
