รวบมือยิงกระหน่ำทหารกองกำลังบูรพา หนีกบดานภูเก็ต เผยแค้นใจเมียคบชู้ต่อหน้าต่อตา

ภูเก็ต – วันนี้ (30 ต.ค. 61) เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ รักษาศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว, พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมสอบปากคำนายอุเทน จิตต์มั่น อายุ 62 ปี เจ้าของร้านเมี่ยงปลาเผา ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ร.ท.เสมือนชาย พืชเพียร อายุ 56 ปี เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพาเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต เกิดเมื่อคืนวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 30 ตุลาคม 2561, เวลา 11:52 น.

พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 23.50 น.วันเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งว่า มีเหตุยิงกันที่บริเวณร้านเปิดขายอาหารตามสั่ง (ชื่อร้านสาลี่เมี่ยงปลาเผา) เลขที่ 340 หมู่ 12 ต.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จึงนำกำลังไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุเป็นอาคารห้องเช่าพบเพียงกองเลือด ส่วนคนเจ็บพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลวัฒนานครและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว ทราบชื่อ คือ ร.ท.เสมือนชาย เป็นทหารกองกำลังบูรพา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าตามร่างกายหลายแห่ง สอบสวนทราบชื่อ ผู้ก่อเหตุ คือ นายอุเทน จิตต์มั่น อายุ 62 ปี เจ้าของร้านเมี่ยงปลาเผา ซึ่งได้มาเปิดร้านอาหารดังกล่าวกับภรรยาได้ประมาณ 2 ปี แต่ระยะหลังต้องทำงานนอกบ้าน จนกระทั่งเกิดเหตุและได้หลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลจังหวัดสระแก้วออกหมายจับนายอุเทนในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองและพาติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนายทะเบียนแห่งท้องที่ โดยไม่มีเหตุอันควรเข้าไปในเคหะสถานของผู้อื่น โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน”

บรรยากาศระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอุเทน กล่าวทั้งน้ำตาในช่วงก่อนเริ่มสอบปากคำต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมทั้งสอบถามถึงการเข้าถึงการรักษาโรคประจำตัวของตนคือโรคเบาหวาน ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธัชชัย ก็ได้รับปากว่าไม่ต้องห่วง นายอุเทนสามารถรับการรักษาตามสมควรอย่างแน่นอน โดยผู้ต้องหาให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตามนายอุเทนระบุว่า ตนเองยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า ร.ท.เสมือนชายจริงและพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ไม่ขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทหาร เนื่องจากเกรงในเรื่องของความปลอดภัย เพราะผู้ตายเป็นถึงทหารกองกำลังบูรพา

นายอุเทน เล่าว่าตนเองเป็นคนลงทุนเปิดร้านอาหารดังกล่าว ในขณะเดียวกันก็ได้ซื้อรถเพื่อขับให้บริการลูกค้าในพื้นที่พัทยา โดยตลอดเวลาตนเองแต่งงานอยู่กินกับภรรยาตามปกติ โดยที่ไม่ได้แยกทางกันแต่อย่างใด และไม่มีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน พร้อมทั้งเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนวันเกิดเหตุว่าตนเองผิดสังเกตในตัวภรรยามาสักระยะแล้ว เพราะไม่อยากให้ตนกลับบ้านตนก็เกิดความสงสัย จนกระทั่งวันเกิดเหตุตนก็ได้โทรบอกภรรยาว่าตนจะกลับมาที่บ้าน แต่ภรรยาบอกว่าให้มาวันหลัง และนั่นก็ทำให้ตนยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้น และได้ขับรถตรงกลับบ้าน และมาพบว่าภรรยาอยู่กับผู้ตาย

“ผมส่งลูกค้าที่กรุงเทพฯประมาณ 3 ทุ่ม ผมโทรบอกภรรยาว่าผมจะกลับบ้านนะ เขาว่าวันนี้ยังไม่ต้องไว้มาวันหลัง ผมก็สงสัย มาถึงบ้านเห็นเขานอนกอดกันผ่านบานเลื่อน” นายอุเทน กล่าว

ผู้ต้องหาเล่าต่ออีกว่า หลังจากที่ผู้ตายเห็นตนก็ได้พลิกตัวและหยิบปืนขึ้นมายิงตนเอง แต่ยิงไม่ออก ตนเห็นเช่นนั้นจึงได้ยิงออกไป 2 นัด พร้อมทั้งอ้างว่าเดิมทีไม่ได้คิดที่จะยิง เพียงคิดว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเอาผิดทางวินัย

อย่างไรก็ตาม นายอุเทนเล่าต่อว่า หลังจากที่ยิงออกไป 2 นัดแรกถูกข้างลำตัวของร.ท.เสมือน ทำให้ล้มลงที่ข้างเตียง จากนั้น ร.ท.เสมือนก็ยกปืนขึ้นมายิงตนอีกครั้ง ทำให้ต้องยิงออกไปอีก 2 นัด รวมทั้งสิ้น 4 นัด ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธัชชัย ระบุว่า ผู้ตายถูกกระสุนยิงเข้ารวม 3 นัด หลังเกิดเหตุจึงได้นำรถไปจอดไว้ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ก่อนจะนั่งรถต่อไปยัง อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ต่อเนื่องไปยังกรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ธัชชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนก็ได้ติดตามข่าวมาตลอด กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาซื้อตั๋วที่สายใต้มายังภูเก็ต จากนั้นจึงได้ประสานมายัง ภ.จว.ภูเก็ต และทราบว่าเข้าพักที่โรงแรมรัษฎา ถ.เทพกระษัตรี ค.รัษฎา โดยเดินทางมาถึงภูเก็ตเมื่อเช้าวานนี้ (29 ต.ค.) ก่อนเข้าทำการจับกุมตัวภายในโรงแรมที่พักในเวลา 15.30 น. พร้อมรับตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุต่อไป

“ผมไม่รู้จะไปทางไหน รู้เพียงว่าต้องหนีเอาตัวรอดก่อน ถ้าผมยังอยู่ในเขตทหารผมรู้ตัวว่าผมตกอยู่ในอันตรายแน่นอน ผมไม่เคยมาภูเก็ต ไม่มีคนรู้จักที่ภูเก็ต ผมอยากจะมอบตัวแต่ไม่ใช่ในเขตทหาร” นายอุเทนกล่าว

รายงานเพิ่มเติม : จุฑารัตน์ เปลรินทร์ 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่