รวบแล้ว 2 หนุ่มจี้ชิงทรัพย์ร้านชำฉลอง อ้างตกงานไม่มีเงินใช้จึงชวนกันก่อเหตุ

ภูเก็ต – วันนี้ (1 พ.ย.61) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว 2 ผู้ต้องหาจี้ชิงทรัพย์ร้านขายของชำในพื้นที่ตำบลฉลอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อเหตุและขับรรถจักรยานยนต์หลบหนีไป พร้อมกับเงินสดจำนวนหนึ่งและสร้อยคอทองคำ 1 บาท ของเจ้าของร้านไปด้วย

เอกภพ ทองทับ

วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤศจิกายน 2561, เวลา 14:11 น.

จากรณีเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 ต.ค. เกิดเหตุคนร้ายสองคนบุกเข้าร้านขายของชำ ภายในซอยทรงคุณ หมู่ที่ 1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ ปรากฏภาพคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์สีบรอนซ์ ไม่ทราบเลขทะเบียนมาจอดที่บริเวณร้านก่อนจะบุกเข้ามาจี้ชิงทอง 1 บาทและเงินสดก่อนหลบหนีไป (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

ซึ่งจากภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดพบว่า 1 ใน 2 คนร้ายได้ถืออาวุธคล้ายปืนขณะก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในร้านด้วย อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง ยืนยันว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกกล่าวว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธ (มีด) โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุพนักสอบสวนสภ.ฉลอง ได้ขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คน และสืบทราบว่า ได้หลบหนีออกจากพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไปยังบ้านเกิดแล้ว ชุดสืบสวนสภ.ฉลองได้เร่งไล่ล่าและสืบการข่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่งสามารถรวบตัวทั้งคู่ได้ในที่สุด 

โดยเมื่อวันที่ 30 ต.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ ชุดสืบสวนสภ.ฉลอง ร่วมกันจับกุมตัว นายภูวนาถ หรือน้ำ มณีโชติ อายุ 27 ปี ที่อยู่ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 30 ต.ค. 61 โดยสามารถจับกุม ได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 4/1 ซ.17 ถ.ทะเลหลวง ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา และได้นำตรวจยึดสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุประกอบด้วย หมวกกันน็อคและอาวุธมีด ที่บ้านเลขที่ 1/38 ซ.ทรงคุณ ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

HeadStart International School Phuket

และจับกุม นายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม ดิสสระ อายุ 32 ปี ที่อยู่ ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 26 ต.ค. 61 สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ สี่แยกโพธิ์ทอง ม.10 ต.ดอนทราย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

นายนัฐวุฒิ ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนและนายภูวนาถเป็นเพื่อนกันและได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากตนและเพื่อนตกงานไม่มีเงินใช้ ตนจึงชักชวนนายน้ำให้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทรัพย์สินที่มาได้เป็นเงินสด 4,000 บาท สร้อยทองคำหนัก 1 บาท หลังก่อเหตุได้นำทองไปขายได้เงินมา 16,000 บาทรวมเงินเป็น 20,000 บาท ตนจึงแบ่งให้นายน้ำ 10,000 บาท และตนได้ 10,000 บาท จากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนีก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

พ.ต.อ.ภคยศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ และภาพจากกล้องวงจรปิดก็สามารถช่วยในการคลี่คลายคดีนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ผู้เสียหายก็ได้รับทรัพย์สินคืนทั้งหมดแล้ว โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีและสำนึกผิดในสิ่งที่กระทำลงไป

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่