เช้าวันนี้ (4 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลอง ได้รับแจ้ง เหตุรถยนต์เบรกแตกพุ่งลงเขาพระใหญ่ ชนทรัพย์สินได้รับความเสียหายบริเวณหน้าสวนนก ภูเก็ต เบิร์ด พาราไดซ์ ภายในซอย ยอดเสน่ห์ ต.ฉลอง หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.ฉลอง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลฉลอง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต(ศูนย์ไข่มุก) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็น ทางโค้งหน้าสวนนก ภูเก็ต เบิร์ด พาราไดซ์
พบรถยนต์กระบะ มาสด้า บี 2200 สีเทาดำ ซึ่งเป็นรถกระบะดัดแปลงติดรั้วกระบะบรรทุกกล้วยเต็มคัน พุ่งชนที่พักแท็กซี่และ ป้ายโฆษณาของ สวนโชว์นกและโชว์งู ซึ่งอยู่ริมกำแพงของบ้านเลขที่ 82 พังเสียหายป้ายล้มระเนระนาด ตัวรถจอดขนานกับกำแพง สภาพล้อหลังซ้ายบิดงอ กระบะท้ายพังเสียหายทั้งแถบ กล้วยตกกระจายเต็มพื้น
ห่างจากตัวรถไปประมาณ 15 เมตร พบมีร่องรอยล้อลากเป็นทางยาวผ่านข้างเสาไฟฟ้าและมีเสาหลักเขตรั้วหักล้มอยู่ริมถนน ส่วนผู้ขับขี่ทราบชื่อภายหลังคือนาย ธัญชนก แสงม่วง อายุ 57 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ศีรษะ และมีอาการตาพร่ามัวเจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาลก่อนนำส่งไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย
นาย ธัญชนก เล่าว่า ได้ขับรถไปส่งกล้วยให้ปางช้างบนเขาพระใหญ่ ซอยยอดเสน่ห์ ขากลับขณะลงจากเขาที่ลาดชันมาตามปกติ กระทั่งมาถึงจุดดังกล่าว ซึ่งความลาดชันเล็กน้อย พบว่ารถเกิดเบรกไม่อยู่ จึงรีบใช้เกียร์ต่ำประคองรถให้ช้าลง แต่น้ำหนักของกล้วยที่บรรทุกมีน้ำหนักมาก ทำให้รถพุ่งลงด้วยความเร็ว
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งจึงพยายามประคองหักเลี้ยวแต่ไม่อยู่รถพุ่งเข้าหาคูน้ำข้างทางซึ่งมีเสาไฟฟ้าอยู่ ตนจึงหักเลี้ยวหลบเสาไฟฟ้าจนพ้น แต่ก็ไปชนเข้ากับกับเสารั้วขนาดเล็กและป้ายโฆษณาแทน ก่อนจะพุ่งขึ้นจากคูน้ำตรงไปหาที่พักแท็กซี่ริมกำแพงบ้านเลขที่ 82 ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 15เมตร จึงตัดสินใจหักเลี้ยวไปทางซ้ายอีกครั้งเพื่อให้รถหันข้างเข้ากระแทกกับที่พัก ป้ายโฆษณาและกำแพงของบ้านเลขที่ 82 แทน และได้ผล ทำให้รถหยุดสนิท จึงรีบลงจากรถมาขอความช่วยเหลือ เคราะห์ดีขณะที่พุ่งลงเขาไม่มีรถคันอื่นขับสวนทางมา
อย่างไรก็ตาม ตนเองเชื่อว่าที่รอดจากอุบัติเหตุเพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากการใช้สติแก้ปัญหา อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพระเครื่องที่ลูกชายให้ไว้ซึ่งเก็บอยู่ในรถ คุ้มครองให้รอดปลอดภัย พร้อมกับรีบเดินไปหาในห้องโดยสารรถมาให้ผู้สื่อข่าวดู พบว่าเป็นหลวงปู่ทวดรุ่นหลังเตารีด แต่ไม่ทราบปีที่สร้าง ซึ่งนายธัญชนกระบุเพิ่มเติมว่า “พระเครื่ององค์นี้ตนเองรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง”
