ความสูญเสียอันโหดร้ายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนภูเก็ต หรือผู้ที่ใช้เส้นทางสัญจรบนเขาป่าตอง ซึ่งทุกคนก็ทำได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก ณ จุดเดิมอีกเลย
จากอุบัติเหตุในครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค. เวลาประมาณ 23.00 น.รถบัสหมายเลขทะเบียน 30-0902 พังงาบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวจีนมุ่งหน้าเข้าป่าตองเกิดอุบัติเหตุเบรคแตกเป็นเหตุให้พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาหน้าวัดสุวรรณคีรีวงก์ถนนพระบารมี ตำบลป่าตองและคร่าชีวิตของด.ช.หลิวจีปุยอายุ 10 ปีในที่เกิดเหตุและนายหลิวเฟอายุ 36 ปีพ่อของเด็กชายจีปุยในเวลาต่อมา ทางจังหวัดภูเก็ตจึงได้มีการประชุมหารือเมื่อวันที่ 11 ก.ค. เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะเกิดอุบัติเหตุ มาตรการการป้องกันของการเกิดอุบัติเหตุว่ามีปัจจัยใดที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ปลัดจังหวัดภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้ประกอบการรถทัวร์นำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
ในที่ประชุมได้มีการเสนอความคิด ในการกำหนดมาตรการระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว อาทิ การจัดตั้งจุดตรวจสภาพรถและคนขับก่อนจะขับขึ้นไปบริเวณเขาป่าตอง มีการจัดตั้งคณะทำงานในการตรวจหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ การจัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทัวร์และรถบัสนำเที่ยว เสนอให้มีการทำหลุมทรายและสิ่งกีดขวางเพื่อชะลอความเร็วของรถตามจุดเสี่ยงต่างๆ และในส่วนของรถบัสนำเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัด ต้องเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการได้ศึกษาข้อมูลเส้นทางภายในจังหวัดภูเก็ตก่อนเพื่อความปลอดภัยและนำรถมาตรวจสอบสภาพตามกำหนดอยู่เสมอ
ผู้ประกอบการรายหนึ่ง กล่าวว่าทางผู้ประกอบการรถบัสนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ได้มีการดำเนินการร่วมกันรณรงค์การลดอุบัติเหตุมาอย่างต่อเนื่อง โดยการร่วมกันระหว่างชมรมเครือข่ายผู้ประกอบการในจังหวัดภูเก็ต และอีกส่วนหนึ่งที่เป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุคือรถบัสนำเที่ยวที่มาจากต่างจังหวัดเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต และไม่ชำนาญเส้นทางจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งนี้ผู้ประกอบการยังระบุว่าจากการตรวจสอบพบสภาพรถบัสนั้นมีสภาพไม่สมบูรณ์อีกด้วย
นายนรภัทร กล่าวว่า ทางจังหวัดภูเก็ตคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ลงพื้นที่บริเวณทางลงเขาป่าตองหน้าวัดสุวรรณคีรีวงก์และบริเวณจุดเสี่ยงต่างๆเพื่อตรวจสอบพื้นที่และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นส่วนมาตรการระยะยาวในการแก้ปัญหาการเรื่องของความลาดชันของถนน
ผู้ว่าฯ ยังได้พูดถึงโครงการที่จะก่อสร้างท่อลอดอุโมงค์ป่าตอง-กะทู้โดยระบุว่าในขณะนี้มีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้วทางจังหวัดจะเร่งขับเคลื่อนเพื่อให้โครงการท่อลอดอุโมงค์ป่าตอง- กะทู้ให้สามารถดำเนินการก่อสร้างได้หากมีการก่อสร้าง และเปิดให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางได้คาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณดังกล่าวได้อย่างแน่นอน
ด้านนางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วตนไม่หวังกับอุโมงค์ป่าตองเพราะในขณะนี้ก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าโครงการดังกล่าวจะได้เริ่มทำการก่อสร้างและแล้วเสร็จเมื่อใด สิ่งที่ควรจะเริ่มทำตั้งแต่วันนี้คือการแก้ไขวิศวกรรมทางถนนให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
“จากการประชุมล่าสุดสรุปได้ว่าปัญหาเกิดจากสภาพรถคนขับไม่ชำนาญ และสภาพของถนนที่มันคดโค้งสูงชันในทางปฏิบัติท่านผู้ว่าฯ ได้มอบขนส่งประสานผู้เกี่ยวข้องโดยตรงเช่นผู้ประกอบรถทัวร์ และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างรถทัวร์ให้มาพูดคุยกันเพื่อหาแนวทางร่วมกัน” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว
“มีผู้ประกอบการบริษัทรถทัวร์รายหนึ่งที่ได้เข้าร่วมในประชุมเสนอว่าบริษัททัวร์กดราคาพวกเขามากเกินไปได้ค่าเช่าวันนึง 1,500 – 2,000 ซึ่งมันไม่พอค่าใช้จ่ายที่จะนำมาซ่อมแซมรถให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมใช้งานได้แต่ตัวเขาก็จำเป็นต้องรับค่าจ้างไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีค่าผ่อนรถ”
ทั้งนี้นายกเทศมนตรีป่าตองยอมรับว่า การตรวจสอบสภาพรถและระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ได้อยู่ในอำนาจของเทศบาลที่จะไปควบคุมดูแล แต่สิ่งที่ทำได้คือเสนอแนวทางที่คิดว่าจะเป็นรูปธรรมมากกว่าที่จะรออุโมงค์ป่าตอง
“ถึงตอนนี้เราเองยังไม่รู้ว่าอุโมงค์ป่าตองจะเกิดไม่เกิด ถ้าเกิดขึ้นจริงอย่างเร็วที่สุดก็จะเปิดใช้ได้ในปี 2567 แสดงว่าจากวันนี้ถึงปี 2567 เราจะต้องหาวิธีการอย่างอื่นที่มาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือการแก้ปัญหาระยะยาวไปเลย”
“อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากคนขับรถที่ไม่ชินเส้นทาง จุดหน้ารร.ซีเพิร์ลที่มันมีความชัน รถที่มาจากในเมืองจะมองไม่เห็นว่าถนนข้างหน้ามันเป็นอย่างไร พอพ้นเนินจะเป็นเขาและโค้งทำให้คนขับรถปรับตัวไม่ทัน ดิฉันเองได้เสนอขอให้แขวงปรับถนนตรงนั้นลงปรับลดความโค้ง เพื่อให้คนขับมีทัศนวิสัยให้ดีขึ้น แต่สุดท้ายก็จะต้องคุยในรายละเอียดต่อไปเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ป่าตองไม่สามารถจัดการได้เพียงลำพัง” นางสาวเฉลิมลักษณ์กล่าว
นางสาวเฉลิมลักษณ์ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการติดตั้งโรลเลอร์บอลบริเวณโค้งวัดสุวรรณคีรีวงก์ เพื่อไม่ให้เกิดการอัดกระแทกในจุดดังกล่าวและไม่มีการเจ็บและตายว่า หากติดตั้งแล้วจะไม่เกิดการชนอย่างรรุนแรงที่จุดนั้นจริง แต่รถจะไถลและเกิดความเสียหายในบริเวณใกล้เคียงแก้จุดก็เกิดการเจ็บตายอีกจุดอยู่ดี
“ดิฉันเองได้เสนอผู้ว่าฯ ไปแล้วว่าจากอุบัติเหตุใหญ่ทั้ง 2 ครั้งที่มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คนในระยะเวลาเพียงไม่ถึงเดือนถือเป็นภาพใหญ่ของประเทศ และอยากให้ท่านได้ใช้โอกาสนี้เสนอรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาจริงๆ เราต้องหารงบประมาณและความช่วยเหลือจากส่วนกลางไม่ใช่แค่โยนให้ทางจังหวัดแก้ไขเพียงฝ่ายเดียว”
“เราน่าจะมีแนวทางอื่นนอกจากการนั่งรออุโมงค์ป่าตอง รอจนเราได้รับคำตอบว่าอุโมงค์จะไม่เกิดขึ้นแล้วอีก 2-3 ปีค่อยเริ่มคิดใหม่ทำใหม่ ดิฉันว่ามันไม่ทันการณ์เพราะกว่าจะถึงวันนั้นคนก็เจ็บตายลงทุกวัน” นางสาวเฉลิมลักษณ์ กล่าว
