จากกรณีอุบัติเหตุดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 7 ธ.ค. รถยนต์วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขข 4305 ภูเก็ต มีชาวต่างชาติเป็นผู้ขับขี่ ซึ่งขณะเกิดเหตุชาวต่างชาติ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นาย STIG GORAN JOHNSSON ได้เลี้ยวกลับรถ ได้มีรถอเนกประสงค์อิซูซุมิวเอ็กซ์สีขาว ขับมุ่งหน้าออกถนนเทพกระษัตรี มาถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถเก๋งสีขาวยูเทิร์นตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถเบรกรถได้ทัน จึงชนเข้ากลางตัวรถเก๋งคันดังกล่าวอย่างเต็มแรง
ทำให้ผู้ขับขี่ภายในรถอเนกประสงค์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อภายหลังคือ นายชัยวัฒน์ ปิ่นแก้ว เป็นผู้ขับขี่ นางนภัสสร บัวสวัสดิ อายุ 32 ปี และ ด.ญ.นิชานันท์ ปิ่นแก้ว อายุ 5 ปี ส่วนรถเก๋งสีขาวตัวรถด้านซ้ายยุบเข้าไปติดกับตัวรถด้านขวา และกระเด็นไปฟาดกับท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ซึ่งอยู่ในเลนซ้ายสุด รถบรรทุก 10 ล้อเสียหายเล็กน้อย ส่วนชาวต่างชาติติดคาอยู่ในรถเก๋งของตัวเอง เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ต้องนำเครื่องตัดถ่างมาตัดนำเอาผู้ขับขี่รถชาวต่างชาติออกมาจากตัวรถ
เบื้องต้นผู้ขับขี่ชาวต่างชาติ ได้บาดเจ็บที่แขนข้างขวา มีแผลที่ครูดกับเหล็กตัวรถแต่ออกมาอย่างปลอดภัย จากนั้นได้มีรถยนต์เก๋งโตโยต้ายาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กข 248 ภูเก็ต วิ่งตามหลังมาเบรกไม่ทันพุงชนท้ายรถอิซูซุมิวเอ็กซ์สีขาวเข้าอย่างจัง ทำให้ฝากระโปรงด้านหน้าตัวรถยุบเสียหายทั้งหมด ผู้ขับขี่ทราบชื่อภายหลังคือ นายสราวุธ ศรีรัฐ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่กุศลธรรมภูเก็ต นำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ในส่วนคดีความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้ดำเนินการตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และสอบปากคำผู้รับบาดเจ็บทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป
นายเจษฎากร หรือฟอร์ด ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งจอดรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณเกาะกลางถนนติดกับยูเทิร์นที่เกิดเหตุเล่า ตนเห็นรถเก๋งสีขาวเลี้ยวกลับรถ และมีรถอเนกประสงค์สีขาววิ่งมาด้วยความเร็วชนเข้าอย่างจัง ทำให้รถเก๋งกระเด็นไปติดกับรถบรรทุก 10 ล้อ ในขณะเดียวกันมีรถเก๋งสีดำอีกคันหนึ่งวิ่งตามหลังรถอเนกประสงค์สีขาวมา เบรกไม่อยู่ชนเข้ากับรถอเนกประสงค์สีขาว ทำให้คนหมดได้รับบาดเจ็บและนำตัวส่งโรงพยาบาล
นายเจษฎากร กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจมาก เพราะไม่นึกว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นตรงหน้า และคิดว่าตนโชคดีที่ไม่ได้รับอุบัติเหตุในครั้งนี้ไปด้วย
ด้านนายอนุวัฒน์ กระจ่าง ผู้ขับขี่รถบรรทุก 10 ล้อ กล่าวว่าตนขับรถชิดเลนซ้ายมาโดยตลอดเพราะเป็นรถใหญ่ ซึ่งบรรทุกเหล็ก เพื่อจะไปลงเหล็กที่บ้านเกาะแก้ว ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถบรรทุก 10 ล้ออีกคันหนึ่งแซงตนขึ้นไป ขณะขับอยู่ไหล่ทางชิดขอบด้านซ้าย เห็นรถเก๋งสีขาวมายูเทิร์นและมีรถอเนกประสงค์สีขาวพุ่งชนรถเก๋ง กระเด็นมาถูกท้ายรถของตนได้รับความเสียหาย และมีรถยนต์เก๋งวิ่งตามหลังรถอเนกประสงค์มาอีกหนึ่งคัน เบรกไม่ทันชนเข้ากับรถอเนกประสงค์ ทำให้ท้ายรถอเนกประสงค์พังเสียหายยับเยิน และหน้ารถเก๋งสีดำพังเสียหายทั้งหมด
นางณญาตา ชุมพรพันธุ์ เจ้าของร้านขายต้นไม้หน้าจุดเกิดเหตุถนนบายพาส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมาเปิดร้านขายต้นไม่อยู่ตรงจุดนี้กว่า 19 ปีแล้ว จุดกลับรถตรงนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะรถทุกคันวิ่งมาด้วยความเร็ว
เธอกล่าวอีกว่า “เคยแจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาติดตั้งไฟสัญญาณจราจรในจุดกลับรถตรงนี้ แต่ไม่มีหน่วยงานใดมาทำการติดตั้งไฟสัญญาณจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในบริเวณนี้ ถ้ายังไม่มีการติดตั้งไฟสัญญาณจราจร คิดว่าน่าจะมีอุบัติเหตุและการสูญเสียชีวิตของผู้ใช้รถกันอีกจำนวนมากแน่นอน”
ล่าสุด ร.ต.ท. ปานทอง พลสงคราม รอง สารวัตรจราจร สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยกับ The Phuket News ว่า เบื้องต้นไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาใด ๆ
