เจ้าท่าภูเก็ตสั่งตรวจปรับเจ็ตสกีขับในที่ห้ามใช้ พบใช้เรือไม่ได้รับอนุญาตกว่า 26 ลำ

ภูเก็ต - ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจตราปราบปราม พร้อมทั้งให้ผู้ควบคุมเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ’เจ้าท่า’

เอกภพ ทองทับ

วันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม 2567, เวลา 17:19 น.

หลังจากสำนักงานฯได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ในพื้นที่บริเวณอ่าวปอ เกาะนาคา เกาะรังและอ่าวยามู จังหวัดภูเก็ต มีการใช้เรือและการขับขี่เรือเจ็ตสกีนอกเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ร้องตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นเรือที่ยังไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้กิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่มีความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการและการสัญจรทางน้ำ ในพื้นที่บริเวณดังกล่าว   

และหากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กับผู้ละเมิดกฎหมายจนถึงที่สุด ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระราชบัญญัติเรือไทย พระราชบัญญัติป้องกันเรือโดนกัน และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 18 พ.ค. 67 เวลา 08.00 น. นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต มอบหมาย นายแทนไท วงศ์เสรี เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ สังกัดสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระนอง ช่วยราชการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการออกตรวจตราปราบปรามในทะเลพื้นที่บริเวณเกาะรังใหญ่ เกาะรังน้อย ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง บริเวณอ่าวยามู อ่าวปอแกรนด์มารีน่า และอ่าวปอ ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยใช้เรือของ ศรชล.ภ.3 ชื่อ ศรชล. 4005 เป็นพาหนะในการออกตรวจฯ

ซึ่งจากการตรวจสอบ พบเรือเจ็ตสกีที่ไม่มีใบอนุญาตใช้เรือจำนวน 26 ลำ จึงแจ้งข้อหาความผิดให้ผู้ขับขี่เรือ และผู้ประกอบการเรือดำเนินการเข้ามาชำระค่าปรับ เนื่องจากใช้เรือโดยไม่มีใบอนุญาตการใช้เรือ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมทั้งแจ้งกำชับให้ผู้ประกอบการห้ามเอาเรือเจ็ตสกีออกบริการนักท่องเที่ยวโดยเด็ดขาด จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

Berda Claude International School of Phuket (BCIS)

ในกรณีของเจ็ทคาร์ (jet car) มีการร้องเรียนว่ามาการนำไปใช้แถวบริเวณอ่าวยามู จึงมอบหมายให้นายแทนไท วงศ์เสรี เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ พร้อมเจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบการใช้เจ็ทคาร์ที่อ่าวยามูแต่อย่างใด จึงได้ประชาสัมพันธ์และให้คำแนะนำอู่เรือ ผู้ประกอบการที่นำเข้าเจ็ทคาร์ประเภทนี้ ห้ามนำไปใช้ในพื้นที่ทางน้ำสาธารณะ เนื่องจากต้องได้รับอนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเรียบร้อยก่อน

ทั้งนี้ นายณชพงศ ได้จัดเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจตราปราบปรามอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาดำเนินคดีปรับในอัตราโทษสูงสุด 10,000 บาท กับเรือเจ็ตสกีผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดเกือบ 100 คดี อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตรากำลังของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตมีจำกัด จึงได้ประสานกับจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงาและกระบี่ พื้นที่ใกล้เคียง และได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ขอสนับสนุนชุดเฉพาะกิจ เพื่อร่วมตรวจตราปราบปราม ดำเนินการสนธิกำลังบูรณาการกันผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดตามกฎหมายในขั้นสูงสุดต่อเนื่องต่อไป

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่