เฒ่าหึงโหด แทงแม่ค้ากาแฟไม่ยั้ง ดับริมถนนหลังมีปากเสียงรุนแรง

ภูเก็ต - วันนี้ (7 พ.ย. 61) เมื่อเวลา 16.40 น. ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.ท่าฉัตรไชย ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนถูกแทงเสียชีวิต ที่บริเวณถนนภายในหมู่บ้านหน้าวัดท่าฉัตรไชย ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.อ.อัครพล ศิวิไล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าฉัตรไชย พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย พ.ต.ท.วัชรินทร์ จิรัฐิติกาลวิวัฒน์ รอง ผกก.(สอบสวน) แพทย์เวร รพ.ถลาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ท่าฉัตรไชย และจนท.มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ประจำจุดเมืองใหม่ และหน่วยกู้ชีพ อบต.ไม้ขาวรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 7 พฤศจิกายน 2561, เวลา 21:58 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภายในซอยดังกล่าวพบศพ น.ส.อรทัย ฟองโหย อายุ 55 ปี ชาว ต.นาท่วมเหนือ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นที่ถนน สวมเสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ที่บริเวณเสื้อมีคราบเลือดติดอยู่ และมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดประมาณ 5 แผล และที่ปลายเท้าพบกระเป๋าถือสีครีมของผู้ตายวางอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการหลักฐานอื่นในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนมอบศพให้ จนท.มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่ง รพ.ถลาง

พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าผู้ตายได้มาอยู่กินกับนายสมบรูณ์ แซ่เล้า อายุ 69 ปี ผู้ก่อเหตุได้ประมาณ 3 เดือนเศษ ซึ่งผู้ตายมีอาชีพขายกาแฟที่ด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) ส่วนผู้ตายไม่ได้ทำงานอะไรเนื่องจากมีบุตรส่งเสีย หลังจากคบหากันได้เพียง 3 เดือนดังกล่าว ผู้ตายก็ได้เลิกกับผู้ก่อเหตุมาเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมจบความสัมพันธ์และก่อเกิดเป็นความโกรธแค้นต่อผู้ตายเป็นอย่างมาก

ซึ่งก่อนเกิดเหตุในวันนี้ ผู้ตายได้เดินทางมาจ่ายค่าซ่อมรถที่ร้านซ่อมรถใกล้กับที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นเห็นผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่ร้านซ่อมรถ ทำให้ผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายแบบไม่ยั้งมือ ทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าตำรวจได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุแล้ว สาเหตุเกิดจากผู้ก่อเหตุหึงหวงคิดว่าผู้ตายจะไปปันใจให้ชายอื่น พร้อมจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับ และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุตลอดเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่