ภายในซอยดังกล่าวพบศพ น.ส.อรทัย ฟองโหย อายุ 55 ปี ชาว ต.นาท่วมเหนือ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง สภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บนพื้นที่ถนน สวมเสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ที่บริเวณเสื้อมีคราบเลือดติดอยู่ และมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดประมาณ 5 แผล และที่ปลายเท้าพบกระเป๋าถือสีครีมของผู้ตายวางอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการหลักฐานอื่นในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนมอบศพให้ จนท.มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำส่ง รพ.ถลาง
พ.ต.อ.ประวิทย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าผู้ตายได้มาอยู่กินกับนายสมบรูณ์ แซ่เล้า อายุ 69 ปี ผู้ก่อเหตุได้ประมาณ 3 เดือนเศษ ซึ่งผู้ตายมีอาชีพขายกาแฟที่ด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) ส่วนผู้ตายไม่ได้ทำงานอะไรเนื่องจากมีบุตรส่งเสีย หลังจากคบหากันได้เพียง 3 เดือนดังกล่าว ผู้ตายก็ได้เลิกกับผู้ก่อเหตุมาเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมจบความสัมพันธ์และก่อเกิดเป็นความโกรธแค้นต่อผู้ตายเป็นอย่างมาก
ซึ่งก่อนเกิดเหตุในวันนี้ ผู้ตายได้เดินทางมาจ่ายค่าซ่อมรถที่ร้านซ่อมรถใกล้กับที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นเห็นผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่ร้านซ่อมรถ ทำให้ผู้ตายและผู้ก่อเหตุมีปากเสียงทะเลาะกัน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดแทงผู้ตายแบบไม่ยั้งมือ ทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าตำรวจได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุแล้ว สาเหตุเกิดจากผู้ก่อเหตุหึงหวงคิดว่าผู้ตายจะไปปันใจให้ชายอื่น พร้อมจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับ และทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุตลอดเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุใช้หลบหนี เพื่อเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป