จากกรณีเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ พ.ต.ท.สฤษดิ์ บุตรหนองแสง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุแม่นำเด็กแรกเกิดวัยประมาณ 1 สัปดาห์มาทิ้งที่บริเวณหลังธนาคารกรุงไทย สาขาป่าตอง ตำบลป่าตอง ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลป่าตอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต
พ.ต.ท.สฤษดิ์ กล่าวว่า ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณใต้ต้นปาล์มซึ่งมีม้านั่งไม้วางอยู่ พบกระเป๋าหิ้วสีดำด้านข้างเขียนภาษาอังกฤษว่า I’M REUSEABLE! ภายในพบเด็กทารกเพศชาย ผิวสีแทน จมูกโด่ง ผมดกดำ มีสายสะดือติดอยู่ คาดว่าเด็กทารกดังกล่าววัยประมาณ 7 วัน สวมเสื้อแขนสั้นสีชมพู ห่อด้วยผ้าขนหนูสีชมพู มีผ้าอ้อมเด็ก กระดาษชำระเปียก และขวดนม 1 ขวด
จากการสอบถามนางรัชนี เบริท อายุ 68 ปีผู้พบทารกคนแรกกล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังไปวิ่งออกกำลังกายในช่วงเช้า ที่บริเวณชายหาด ตนได้ยินเสียงเด็กร้องบริเวณจุดที่เกิดเหตุ จึงเดินมาดูพบว่ามีเด็กอยู่ในกระเป๋าหิ้วสีดำใบดังกล่าววางอยู่ จึงเข้าไปดูและพบว่า มีเด็กทารกเพศชายผิวสีแทนจมูกโด่งผมดกดำถูกบรรจุอยู่ในกระเป๋า พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ของเด็ก จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบ เห็นว่าเด็กที่อยู่ในถุงใบดังกล่าวร้องไห้จ้า ซึ่งตนก็ขออนุญาตเจ้าหน้าที่นำเด็กขึ้นมาอุ้มและตรวจสอบนมที่อยู่ในถุงใบดังกล่าว พบว่ายังไม่เสียจึงได้ให้เด็กชายคนดังกล่าวดื่มกิน จากนั้นเด็กคนดังกล่าวก็หยุดร้องไห้และหลับไป จากนั้นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลป่าตองได้นำเด็กคนดังกล่าวเข้าไปปฐมพยาบาล และรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว
พ.ต.ท.สฤษดิ์ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของสถานีตำรวจภูธรป่าตอง ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่บริเวณดังกล่าว พบว่าเวลา 05.39 น.เห็นหญิงสาวสูงประมาณ 150 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกระโปรงสั้น สะพายกระเป๋า ด้านหลังเสื้อสกรีนหมายเลข 88 เดินเข้ามาจุดดังกล่าว จากนั้นเวลา 05.42 น. ได้วางเด็กทารกไว้แล้วเดินออกจากจุดที่เกิดเหตุไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าตรวจสอบวงจรปิดหลายจุดพบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวเดินเท้ามาก่อนที่จะวาง แล้วเดินหลบหนีไปทางหน้าธนาคารกรุงไทยผ่านไปแยกบริเวณไสน้ำเย็น คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็ว ๆ นี้
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลป่าตอง เพื่อขอประวัติการคลอดบุตรที่โรงพยาบาลปรากฏว่าในช่วงดังกล่าวย้อนหลัง 7 วันไม่มีผู้คลอดที่โรงพยาบาลดังกล่าวเลย จากนั้นได้เดินทางมาตรวจสอบที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อขอประวัติย้อนหลังของบุคคลที่คลอดที่โรงพยาบาลย้อนหลัง 7 วัน และเป็นบุคคลที่พักอยู่แล้วอำเภอกะทู้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะหาตัวแม่ใจร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในเร็ว ๆ นี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าแม่รายดังกล่าวคลอดลูกออกมาแล้วประสบภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ช่วงโควิดไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ จึงนำลูกมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว เพื่อที่จะให้บุคคลที่พบแล้วก็นำลูกไปเลี้ยงไว้ แต่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
