หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.วราวุฒิ เส็นโสบ รองสาววัตรสอบสวนสภ.ถลาง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง นายดนัย ใจแข็ง ปลัดฝ่ายความมั่งคง อ.ถลาง และว่าที่ร้อยตรีสมภพ ก้อนแก้ว นายกอบต.เทพกระษัตรี เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บ้าน 127/27 ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวมุงด้วยสังกะสี ซึ่งกำลังถูกเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย อบต.เทพกระษัตรี นำรถดับเพลิง 2 คัน เข้าฉีดสกัด พร้อมทั้งประสานรถดับเพลิงในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลเทพกระษัตรี 1 คัน เทศบาลตำบลศรีสุนทร 1 คัน และเทศบาลตำบลเชิงทะเล 1 คัน รวม 5 คันเข้าสนับสนุน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายและชาวบ้านต้องช่วยเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถดับเพลิง 5 คัน เข้าไปถึง เนื่องจากถนนมีความคับแคบ ประกอบกับตัวบ้านตั้งอยู่ด้านในสุดติดริมกำแพงของวัดบ้านดอน จึงใช้เวลานานหลายนาทีกว่าจะเข้าไปถึงและฉีดน้ำสกัด โดยใช้เวลาฉีดสกัดประมาณ 30 นาทีเปลวเพลิงจึงสงบลง จึงเข้าตรวจสอบ พบตัวบ้านและทรัพย์สินภายในเสียหายทั้งหลัง
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปพบ 2 ตายาย ซึ่งพักสงบสติอารมอยู่บริเวณบ้านชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง โดยนาย สุวรรณ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุอาศัยอยู่กับนางสมรเพียง 2 คน เนื่องจากคนอื่นๆ ไปทำงาน ตนเองได้เปิดวิทยุฟัง โดยวิทยุดังกล่าวเป็นวิทยุเก่า และมีการต่อสายพ่วงทิ้งไว้ จากนั้นได้มาเห็นภายหลังว่ามีควันไฟพุ่งขึ้นในบริเวณใกล้เคียงจึงรีบตะโกนเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วยพานางสมรซึ่งนั่งวีลแชร์ออกมาทัน
จากนั้นเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ทำให้ทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้าน ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งเสื้อผ้า ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด โดยชาวบ้านซึ่งเข้าช่วยเหลือสามารถหยิบพระรูปหล่อหลวงพ่อแช่มวัดฉลองออกมาได้เพียง 1 องค์ ทั้งนี้ความเสียหายรวมมูลค่าหลายแสนบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลางได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการดังกล่าวทำให้สองตายายไร้ที่อยู่อาศัย และไร้ทรัพย์สินติดตัว เบื้องต้นว่าที่ร้อยตรี วิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีสมภพ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ได้ร่วมหารือหาแนวทางช่วยเหลือสองตายาย ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย ของกินของใช้และเครื่องนุ่งห่ม
ในเบื้องต้นต้องให้ไปอาศัยบ้านญาติในบริเวณใกล้เคียง ก่อนจะหางบประมาณปลูกสร้างบ้านที่ ขณะเดียวกันก็มีชาวบ้านบ้านดอน ซึ่งทราบเหตุการณ์ก็เดินทางมาดูพร้อมให้กำลังใจ บางส่วนซื้อของใช้ เสื้อผ้า และมอบเงินช่วยเหลือสองตายาย
ทั้งนี้หลาย นายดนัย ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ใน อ.ถลาง ในเวลาเพียง 1 วัน ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาที่โรงงานเฟอร์นิเจอร์บ้านป่าครองชีพ ม.9 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง (อ่านเพิ่มเติม คลิก) โดยที่น่าสังเกตุคือไฟได้ลุกลามไปติด บ้านเลขที่ 127/27 ม.9 ต.เทพกระษัตรี และล่าสุดในครั้งที่ 2 นี้ ไฟได้ลุกไหม้บ้านเลขที่ 127/27. ม.4 ต.เทพกระษัตรี ของสองตายายซึ่งเป็นบ้านเลขที่เดียวกัน
ชาวบ้านต่างพูดกันว่าอาจจะเป็นเลขอาถรรพ์หรืออาจเป็นช่วงอาถรรพ์ เสาร์ 5 (วันเสาร์ที่ 5) นอกจากนี้ยังมีความบังเอิญอีก 1 อย่างคือ บ้านของสองตายายที่เกิดเพลิงไหม้ซึ่งอยู่หลังวัดเทพกระษัตรี(วัดบ้านดอน) ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันได้มีการพบศพเด็กวัดถูกฆ่าที่ด้านหน้ากุฏิพระหลังที่ 3 (อ่านเพิ่มเติม คลิก) โดยพบว่าด้านหลังกุฏิซึ่งมีกำแพงกั้นนั้นห่างจากบ้านสองตายายไม่ถึง 10 เมตร