เอกชนภูเก็ตยืนยันเดินหน้าซื้อวัคซีน ตั๋วใบสุดท้ายสู่การเปิดเมืองรับต่างชาติตุลาคมนี้

ภูเก็ต - ภาคเอกชน 14 องค์กรจังหวัดภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เรียกร้องขอให้ทบทวนข้อเสนอแนะในการจัดซื้อวัคซีน โดยภาคเอกชนระบุชัดเจนว่าผลกระทบจากโควิด-19 ในครั้งนี้เป็นความตกต่ำของเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ชาวภูเก็ตไม่สามารถแบกรับได้อีกต่อไป ซึ่งทางออกของวิกฤตนี้ที่เหลือตั๋วใบสุดท้ายใบเดียวคือ “วัคซีน” และภูเก็ตต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ทันฤดูท่องเที่ยวเดือนตุลาคมนี้

ข่าวภูเก็ต

วันพฤหัสบดี ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564, เวลา 10:39 น.

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมประชุมหารือเรื่อง “แผนการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเปิดประตูธุรกิจท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2564” และได้เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ #phuketfirstoctober เพื่อเดินหน้าเตรียมความพร้อมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ตุลาคม

“สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันหากไม่ได้รับการบริหารจัดการที่ทันและมียุทธศาสตร์ที่ดีพอ จะทำให้เกิดความรุนแรงของปัญหา และจากรายงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต พบว่า คนภูเก็ตกำลังประสบ “วิกฤตฉับพลัน” ที่รายได้คนในจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้ม “ต่ำกว่า” เส้นความยากจนของประเทศ” นางสาวเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต กล่าวในที่ประชุม

นายสรายุทธ มัลลัม ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวเสริม “สิ่งที่ขอจากรัฐบาลในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่ขอกำลังใจให้เดินต่อได้ และขอการสนับสนุนเชิงนโยบาย ที่จะทำให้ภูเก็ตกลับมาฟื้นได้อีกครั้งด้วยตัวเราเอง”

ทางด้าน นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า “เป็นความจำเป็นที่ภูเก็ตต้องได้รับการออกแบบให้ทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง นอกจากเพื่อความอยู่รอดของพี่น้องชาวภูเก็ตที่พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลักแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องคำนึงถึงกรอบเวลาของฤดูกาลท่องเที่ยว และภาคเอกชนเห็นพ้องต้องกันว่าวันที่ 1 ต.ค. 64 จะเป็นวันที่ภูเก็ตจำเป็นต้องเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัว และหากพลาดโอกาสนี้ไป นอกจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จะสูญเสียมหาศาลแล้ว ปัญหาทางสังคมจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของรัฐบาล เราจะทำทุกอย่างให้พี่น้องชาวท่องเที่ยวภูเก็ตกลับมาอีกครั้งให้ได้ใน 1 ต.ค.ปีนี้”

ยุทธศาสตร์ #phuketfirstoctober

นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้กล่าวว่า “ลูกค้าหลักในจังหวัดภูเก็ตคือชาวยุโรป ที่วันนี้เริ่มฉีดวัคซีนแล้ว โดยรูปแบบการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะมาพัก 7-14 วัน และเริ่มออกเดินทางช่วงต.ค. ดังนั้นหากภูเก็ตมีแผนการรองรับการเดินทางที่ชัดเจนและเป็นไปได้ สื่อสารออกไปภายในเม.ย.นี้ ก็จะทำให้เป็นโอกาสของภูเก็ตอีกครั้งที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นได้ทัน”

นายภูมิกิตติ์ กล่าวอีกว่า “จากแนวคิดเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ต.ค. โดยไม่ต้องกักตัวนั้น ทางทีมภูเก็ตได้ประเมินความเป็นไปได้จากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งต้องการความชัดเจนของรัฐบาลในเรื่องของ การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว, การจัดสรรวัคซีนให้กับชาวภูเก็ต, การอนุมัติให้งบให้อปท., การขึ้นทะเบียนวัคซีนจากผู้ผลิตรายอื่นที่มีเอกสารการวิจัยรองรับ เพื่อเปิดโอกาสให้มีการใช้วัคซีนที่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ และการอนุญาตให้เอกชนสามารถจัดซื้อวัคซีนให้พนักงานได้เองตามกำลังจากโรงพยาบาลเอกชน”

“เป้าหมายของ #phuketfirstoctober คือ การระดมสรรพกำลังในการสนับสนุนให้คนภูเก็ต และพนักงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับวัคซีนเป็นจำนวนอย่างน้อย 70% ของประชากร โดยไม่นับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มภายใน 1 ก.ย. 64 เพื่อสามารถสร้างภูมิต้านทานและเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 เป็นต้นไป” นายภูมิกิตติ์ กล่าว

วัคซีนคือตั๋วใบสุดท้าย

“หากรัฐบาลยังอ้ำอึ้ง ยังคิดในบริบทเดิม ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ทัน เตรียมใจไว้เลยว่ามีปัญหาทางสังคมตามมาติด ๆ แน่ หลังจากนี้เราจะเห็นกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามากวาดซื้อโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมากขึ้น และอาจจะหมดเกาะก็เป็นไปได้ ถึงวันนั้นรัฐบาลจะมารับผิดชอบอะไรได้ สิ่งที่เราขอวันนี้ย้ำว่า ไม่ได้ขอสนับสนุนอะไร นอกจากการอนุมัติเชิงนโยบาย” นายก้องศักดิ์ เน้นย้ำ

“ภูเก็ตฟื้น...ประเทศไทยก็ฟื้น ผมมั่นใจแบบนั้น รัฐบาลให้เราเดินตามแผนได้เมื่อไหร่ นักท่องเที่ยวกลับมา รัฐบาลก็จะได้ภาษีเพิ่มขึ้น เอาไปช่วยพื้นที่อื่นได้มากขึ้น แต่ถ้าปล่อยให้ภูเก็ตแย่...เราจะแย่ไปกันหมด หากรัฐบาลอนุมัติกรอบยุทธศาสตร์ได้จริง เราน่าจะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 40-50% จากจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2562 และนั่นจะเป็นจุดตั้งต้นที่ทำให้ภูเก็ตเดินต่อได้อีกครั้ง” นายสรายุทธ กล่าว

“ภูเก็ตวันนี้สวยมาก แต่ความสวยมากมีราคาที่ต้องจ่าย เป็นความตกต่ำของเศรษฐกิจที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ พี่น้องภูเก็ตแบกวิกฤตไม่ไหวแล้ว วันนี้เป็นเรื่องเศรษฐศาสตร์แห่งความหวังแล้วเท่านั้น และทางออกของวิกฤตนี้เหลือตั๋วใบสุดท้ายใบเดียว คือวัคซีน” นายภูมิกิตติ์ กล่าวทิ้งท้ายในที่ประชุม

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง การจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยได้แจ้งแนวทางการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ระบุว่าในระยะแรกยังไม่อนุญาตให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเอกชนจัดซื้อวัคซีนกับผู้ผลิตวัดชีนได้โดยตรง ในระยะแรกภาครัฐเท่านั้นที่จะดำเนินการจัดซื้อ บริหารจัดการวัคซีน และกระจายวัคซีน

ทั้งนี้ภาคเอกชนภูเก็ตยังคงยืนยันที่จะผลักดันการจัดซื้อวัคซีนเอง และยังคงเดินหน้าผลักดันยุทธศาสตร์ #phuketfirstoctober โดยการยื่นหนังสือของ 14 องค์กรภาคเอกชนในครั้งนี้ เพื่อขอให้ทางจังหวัดส่งต่อไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ทบทวนคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะในการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ซึ่งทางภาคเอกชนได้ชี้แจงความจำเป็นในการฉีดวัคซีน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวครั้งนี้ โดยในหนังสือได้กล่าวถึง ความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดภูเก็ตจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เนื่องจากภูเก็ตพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ฉะนั้นเพื่อให้ภูเก็ตได้กลับมาเดินต่อได้อีกครั้ง ภาคเอกชนยืนยันในการจัดซื้อวัคซีนเอง เพื่อเปิดประตูธุรกิจท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2564

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่