เมื่อวันที่ 9 พ.ย.67 เวลา 17.00 น. ร.ต.ท.สุรสิทธิ์ หวานดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายเวียเชสลาฟ ไลโบฟ (Mr.VIACHESLAV LEIBOV) อายุ 23 ปี สัญชาติ ยูเครน ว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 เวลาประมาณ 22.45 น. นายอัลเฟรด เชอร์นีชุก (Mr.ALFRED CHERNYSHUK) อายุ 18 ปี สัญชาติ ยูเครน ซึ่งเป็นเพื่อนชักชวนให้มาหาที่ห้อง เมื่อตนเดินทางมาถึงที่หบริเวณหน้าประตูทางเข้าที่พักดังกล่าว แล้วมี นายอาร์มาน กริกอริยัน ( Mr.ARMAN GRIGORYAN) อายุ 21ปี สัญชาติอาร์มาเนีย ได้ลงมารับพาไปที่ห้องที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจึงได้นั่งคุยกันที่บริเวณระเบียงของห้อง ต่อมาตนได้ปวดปัสสาวะจึงจะไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเปิดประตูห้องน้ำปรากฏว่ามีผู้ชาย 2 คนอยู่ภายในห้องน้ำโดยได้ให้ใส่ผ้าคลุมสีดำปกปิดใบหน้าทั้งสอง โดยคนหนึ่งใส่กางเกงขายาวสีดำและใส่เสื้อแขนยาวสีดำ ส่วนอีกคนหนึ่งผู้เสียหายจำได้เพียงว่าเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว
จากนั้นชายทั้งสองคนจึงได้เข้ามาทำร้ายผู้เสียหาย โดยได้ล็อกคอของผู้เสียหาย จากนั้นทั้งคนร้ายทั้งสามคนจึงได้ช่วยกันมัดมือ มัดเท้าของผู้เสียหาย ด้วยเชือกและเคเบิ้ลไทร์ จากนั้น นายอาร์มาน กริกอริยัน จึงได้ข่มขู่พร้อมทั้งบังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินสกุลดิจิตอล (USDT) จำนวน 500,000 ดอลล่าห์สหรัฐ (USDT) หากไม่โอนจะหักนิ้ว โดยในขณะนั้น นายอาร์มาน กริกอริยัน ได้ถือค้อนอยู่ และคนร้ายที่ปิดบังหน้าได้ยืนถือมืดยาวหัวหัวตัดอยู่ใกล้กับผู้เสียหาย แต่ตนได้ต่อรองจน นายอาร์มาน กริกอริยัน ได้ลดจำนวนลงเหลือ 250,000 ดอลล่าห์ ตนเห็นว่ามีอาการโกรธและอาจทำร้ายตนเองจึงยินยอมที่จะโอนเงินสกุลดิจิตอล จำนวน 250,000 ดอลล่าห์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทย 8,560,796.48 บาท
ตามที่นายอาร์มาน กริกอริยัน ได้ส่ง QR Code ให้ เมื่อนายอาร์มาน กริกอริยัน กับพวกรวม 3 คน เห็นว่าเงินได้เข้าบัญชีแล้ว จึงได้มัดตนไว้กับเตียงนอนและได้ข่มขู่ตนว่าห้ามบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับใคร และอย่าแจ้งความร้องทุกข์ จากนั้นจึงได้เก็บของสัมภาระภายในห้อง และหลบหนีออกจากห้อง เมื่อตนเห็นคนร้ายออกจากห้องแล้ว ตนจึงพยามยามแกะเชือกที่รัดออก โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จึงแกะเชือกออกได้ แล้วออกมาจากห้องและลงมาที่ชั้นหนึ่งบริเวณหน้าโต๊ะต้อนรับแขก (Reception) จากนั้นจึงได้ขอถ่ายรูปหนังสือเดินทางของผู้เช่า จึงทราบว่า มีผู้เช่า 2 คน นายอาร์มาน กริกอริยัน และ นายอัลเฟรด เชอร์นีชุก
จากนั้นตนบอกกับพนักงานว่าอยากเข้าไปเก็บของในห้องดังกล่าวเพื่อเป็นพยานหลักฐาน แล้วจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไปยังสนามบินภูเก็ตเพื่อหาคนร้ายทั้งสาม แต่ก็หาไม่พบแต่อย่างใด จึงได้กลับไปที่บ้านพักในพื้นที่ราไวย์ จากนั้นจึงคิดไตร่ตรองเนื่องจากลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ตน แต่สุดท้ายแล้วจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กมลา เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป
