เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันเกิดเหตุ ร.ต.อ.ไสว ชูแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งว่ามีเด็กหญิงวันขวบเศษสูญหายภายในโรงเรียน อบจ.กระบี่ ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา และมูลนิธิประชาสันติสุขกระบี่เข้าทำการตรวจสอบ บริเวณอาคารภายในโรงเรียนแต่ก็ไม่พบวี่แววของเด็กหญิงแต่อย่างใด
นางจิณภัทร์ หลำเบ็ญส๊ะ อายุ 31 ปี ชาว จ.สงขลา แม่ของเด็ก ซึ่งมีอาชีพแม่ค้าขายข้าวแกงในโรงอาหารของโรงเรียน เล่าถึงเหตุการณ์ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาเด็กหญิงจิรณา วุ่นชิงชัย อายุ 1 ปี 6 เดือนว่า ก่อนเกิดเหตุได้มาทำความสะอาดร้านและพาลูกสาว 2คนมาด้วย ในระหว่างนั้นก็ให้ลูกสาวที่หายตัวไปเล่นอยู่กับพี่สาววัย7ขวบ ที่บริเวณสนามหญ้าข้างโรงอาหาร จนถึงเวลากลับบ้านตนได้ออกมาดูแต่ไม่พบลูกสาวคนเล็ก ถามลูกสาวคนโตก็ไม่ทราบว่าหายไปไหน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยออกตามหา
แต่หลังจากที่ค้นหาอยู่นานกว่า 1 ชม.ก็ไม่พบเด็กหญิงคนดังกล่าวแต่อย่างใด จากนั้นทีมค้นหาจึงเริ่มค้นหาบริเวณสนามหญ้าอีกครั้ง โดยสังเกตเห็นฝาถังดักไขมันพลาสติกทรงกลม 1 ใน 4 ใบแง้มออกมา ซึ่งแต่ละอันมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50 ซม. ติดตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงเปิดออกและช่วยกันตรวจสอบภายในถังที่มีน้ำและไขมันจากเศษอาหารอยู่ภายในถังฝังในดินลึกประมาณ 2 เมตรจนเกือบเต็ม เจ้าหน้าที่นำไม้ยาวมาควานภายในถังและพบว่ามีมือเด็กโผล่ขึ้นมา จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมา ทราบว่าเป็นด.ญ.จิรณาจมน้ำในถังดักไขมันเสียชีวิตแล้ว
เมื่อนางจิณภัทร์ทราบเรื่องก็ได้วิ่งโผเข้าไปกอดศพลูกสาววันขวบเศษร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าด้วยอาลัย เจ้าหน้าที่ต้องพยายามช่วยกันปลอบใจเธอ แต่เจ้าตัวก็เอาแต่นั่งกอดศพไม่ยอมพูดคุยกับใคร
สำหรับผลชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น แพทย์โรงพยาบาลกระบี่ระบุว่า ไม่มีบาดแผลตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตได้ประมาณ 1ชม. ในขณะที่นายสมศักดิ์ กิติธรกุล นายกอบจ.กระบี่ ก็ได้เข้ามาดูพื้นที่ด้วยตนเอง พร้อมสั่งการให้หามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
ด้านผู้บริหารโรงเรียนได้สั่งตรวจสอบพร้อมเปลี่ยนฝาถังดักเก็บไขมันที่มีสภาพชำรุดทั้ง 4 ฝาแล้ว เนื่องจากมีอายุการใช้งานมานานกว่า 8 ปี พร้อมทั้งเปิดเผยว่าที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้กำชับเด็กนักเรียนเสมอว่าห้ามเดินลัดสนาม และเด็กนักเรียนก็ปฏิบัติตามอย่างดีมาตลอด