สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่บริเวณหาดกะตะ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว โดยมีผู้เสียหายเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สัญชาติ รัสเซีย ได้แจ้งว่าเช้าเดียวกันนั้นตนได้ไปเที่ยวที่บริเวณหาดกะตะ และได้วางกระเป๋าสะพายข้างไว้ที่บริเวณชายหาดกะตะแล้วไปเดินเล่นที่ชายหาด จากนั้นได้มีผู้ชาย (ผู้ก่อเหตุ) มาหยิบกระเป๋าใบดังกล่าวซึ่งมีทรัพย์สิน (โทรศัพท์มือถือ, เงินสด, บัตรธนาคาร และเครื่องประดับ) และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบเห็นชายผู้ก่อเหตุเดินมาจากบริเวณชายหาดกะตะมารื้อและหยิบเอากระเป๋าใบที่นักท่องเที่ยววางไว้ แล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด (เพิ่มเติม) ทำให้ทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปยังพื้นที่ ต.ฉลอง โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 i สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 กศ 8227 ภูเก็ต และขับเข้าไปภายในซอยอนุสรณ์ พื้นที่ ต.ฉลอง
จากนั้นจึงได้ไปตรวจสอบที่ซอยอนุสรณ์ กระทั่งพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จอดอยู่ที่บริเวณหน้าอาคารห้องเช่าภายในซอย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เคาะประตูห้องเช่าพบ นายสุรชัยฯ (ไม่เปิดเผยนามสกุล) เปิดประตูห้องออกมา เมื่อนายสุรชัยฯ เห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงท่าทีตกใจ มีพิรุธ ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.กรพล เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.สส.สภ.กะรน ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามเกี่ยวกับรถจักรยานยนต์คันที่อยู่ข้างหน้า โดย นายสุรชัยฯ รับว่าตนเป็นคนใช้รถคันดังกล่าวอยู่ แต่รถคันดังกล่าวเป็นของแฟน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอทำการตรวจค้นห้องพัก ผลการตรวจค้นพบ ชุดที่ใช้ก่อเหตุ (เสื้อยืดสีเทา - กางเกงสีแดง) ถอดวางอยู่ในห้องพักฯ นอกจากนี้ยังพบเงินสด, แหวนทอง, บัตรธนาคารและบัตรของชาวต่างชาติ อีกจำนวนหนึ่ง สอบถาม นายสุรชัยฯ ได้ให้การยอมรับว่าได้ไปก่อเหตุลักทรัพย์ของนักท่องเที่ยวที่หาดกะตะ มาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจริง
เมื่อสอบถามถึงโทรศัพท์ของผู้เสียหาย โดยนายสุรชัยฯ รับว่าได้พาไปซุกซ่อนอยู่ที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์อีกคันนึง โดยได้นำไปตรวจสอบที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก 110 สีน้ำเงิน ซึ่งจอดอยู่ข้างรถคันที่ใช้ก่อเหตุ ตรวจค้นพบกระเป๋าเครื่องสำอาง และโทรศัพท์มือถือ (ของกลางรายการที่ 1 และ 3) ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามหาโทรศัพท์มือถือไอโฟน โดยนายสุรชัยฯ ให้การยอมรับว่าได้ขายไปให้กับนายแจ็ค ซึ่งได้ติดต่อขายทางเฟซบุ๊ก: แจ็ค โมบาย ซึ่งนายแจ็คได้ให้นายต้อมเป็นคนมารับเอาโทรศัพท์ไปเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นายสุรชัยฯ ติดต่อให้นายต้อมมาพบที่หน้าวิลล่า มาร์เก็ท ต.ฉลอง
เมื่อนายต้อมมาถึงเจ้าหน้าที่นำโดย พ.ต.ท.กรพล ได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบทำให้ทราบชื่อ-สกุล จริง ของ นายต้อม คือ นายธรรมศักดิ์ฯ (ขอไม่เปิดเผยนามสกุลจริง) จากนั้นได้สอบถามหาโทรศัพท์ไอโฟนที่นายธรรมศักดิ์ฯ ไปรับมาจากนายสุรชัยฯ โดย นายธรรมศักดิ์ฯ ได้แจ้งว่าตนได้รับจ้างจากนายแจ็ค ซึ่งได้ติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก: แจ็ค โมบาย ให้มารับของ แล้วให้ไปส่งพัสดุให้ โดยโทรศัพท์ที่เพิ่งรับมาจากนายสุรชัยฯ นั้น ตนเพิ่งไปส่งพัสดุแฟลชสาขาห้าแยกฉลอง (เมื่อก่อนเที่ยง) จากนั้นนายธรรมศักดิ์ฯ ได้นำไปตรวจสอบพัสดุดังกล่าว พบว่าเป็นโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 13 โปร แม็กซ์ สีทอง (ของกลางรายการที่ 2) จริง โดยทางขนส่งได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนควบคุมตัวนายสุรชัยและนายธรรมศักดิ์พร้อมด้วยของกลางทั้งหมดมาที่ สภ.กะรน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาชาวต่างชาติมาตรวจสอบมาชี้ยืนยันทรัพย์ที่ถูกขโมยไป โดยทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ครบถ้วน จึงได้ส่งมอบทรัพย์สินคืน สร้างความพึงพอใจแก่ผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ส่วนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
