เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 11 กค.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ ได้เรียกชุดสืบสวนจากหน่วยต่างๆ ร่วมประชุม เพื่อติดตามคืบหน้า (อ่านเพิ่มเติม คลิก) ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ในช่วงค่ำวันเดียวกัน และสั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบปรามลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีนี้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ (อ่านเพิ่มเติม คลิก)
โดยก่อนการประชุม พล.ต.อ เฉลิมเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลถึงประเด็นการสังหาร ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก แต่ไม่ได้ตัดทิ้งประเด็นใดๆทิ้ง ทั้งขัดแย้งที่ดิน นสล. โรงโม่หิน ขัดแย้งส่วนตัว ชู้สาว และยาเสพติด ส่วนเส้นทางการเงินของผู้ใหญ่บ้านนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ไม่สามารถเปิดเผยได้ คาดว่าคงอีกไม่นานนี้ ส่วนประเด็นที่จะให้น้ำหนักไปยังประเด็นใดนั้น อยู่ต้องรอสรุปการประชุมทีมสืบสวนอีกครั้ง
ขณะเดียวกันวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งจากส่วนกลางและในพื้นที่ระดมกำลังออกตรวจสอบและเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนจะหลบหนี เพื่อดูเส้นทาง โดยเฉพาะรถของคนร้ายคือรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ รถโตโยต้ายาริส สีขาว และรถยนต์โตโยต้ายาริส ของผู้ใหญ่บ้านที่ได้ขโมยไป 1 คันด้วย
เจ้าหน้าที่ชุดปราบปราม ได้เชิญตัวนายเชษฐ์ดนัย ถิ่นพังงา ผู้บริหารของบริษัทโรงโม่อ่าวลึกศิลาทอง ที่เป็นผู้ที่ขอสัมปทานทำเหมืองหินในพื้นที่ ม. 2 ต.บ้านกลาง และเป็น 1 ในชนวนที่ตำรวจพุ่งเป้า และเป็นเพื่อนสนิทของนายวรยุทธ มาทำการสอบปากคำ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารบริษัทโรงโม่ดังกล่าวเดินทางเข้าขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเพื่อต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้จากการที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายเชษฐ์ดนัย เปิดเผย ว่า เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายตั้งแต่สมัยเด็ก และเรียนหนังสือมาด้วยกัน ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกันแต่อย่างใด และยังสนิทกับนางสาววิจิราพร อินทร์จันทร์ เพื่อนสาว คนสนิทนายวรยุทธด้วย ส่วนกรณีเงิน ที่มีการรับเงินจากหุ้นส่วนอีกคนนั้นทางนายเชษฐ์ดนัย ไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด