DSI ดูพื้นที่เขาสูงป่าบางขนุนถูกทำลายปลูกไม้ บ้านพักตากอากาศ วิวเครื่องขึ้นลง

ภูเก็ต - รองอธิบดี DSI ดูพื้นที่เขาสูงในป่าบางขนุนที่ถูกทำลายปลูกไม้เชิงเดียว-บ้านพักตากอากาศในพื้นที่สูง มองเห็นวิวเครื่องบินขึ้นลงสนามบินนานาชาติภูเก็ต ด้าน ผบ.ทัพเรือภาค 3 มอบหลักฐานเชิงลึกประกอบคดี

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 16 สิงหาคม 2566, เวลา 16:00 น.

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 66 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมคณะกำลังจาก กรมต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กรมสารวัตรทหารเรือ และตัวแทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 เดินทางยังพื้นที่ หมู่ที่ 5 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งมีสภาพสูงชัน พบการทำลายต้นไม้ด้วยการตัดท่อน้ำเลี้ยงปล่อยให้ยืนต้นตาย ตัดต้นไม้เป็นวงกว้างสภาพเขาหัวโล้น เพื่อปลูกทุเรียน ยางพารา ซึ่งเป็นพืชเชิงเดี่ยว  นอกจากนั้นยังพบว่า มีการก่อสร้างอาคารถาวร เหมือนเป็นบ้านพักตากอากาศ เน้นจุดที่มีวิวมุมสูงมองเห็นสภาพเครื่องบินขึ้นลงของสนามบินนานาชาติภูเก็ต และมองเห็นชายหาดในยางสวยงาม ซึ่งเป็นพื้นที่สูงข่มสนามบินนานาชาติภูเก็ตและเป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านการบิน เมื่อตรวจสอบพบว่ามีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การบริหารส่วนตำบลสาคู  และเมื่อตรวจสภาพป่าทางอากาศพบว่าการตัดไม้ป่าเดิมออกมีการปลูกพืชเชิงเดียว ยางพารา และทุเรียน เป็นวงกว้าง พบทางน้ำที่ไหลจากเขาลงแหล่งน้ำ ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพียงระยะประมาณ 2 กิโลเมตร  

ร.ต.อ.ปิยะ เปิดเผยว่า ในการลงพื้นที่ตรวจสภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน  เนื่องจากพื้นที่ป่าบางขนุนถูกบุกรุกทำลายจากบุคคลและกลุ่มบุคคล  และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับไว้เป็นคดีพิเศษ ที่ 59/2564 ต่อเนื่องจากพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง ที่ได้รับอนุญาตใช้จากกรมป่าไม้ เมื่อ ปี พ.ศ.2540 ที่มอบให้กรมอาชีวศึกษาใช้เพื่อจัดการศึกษา และเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 พรรษาของจังหวัดภูเก็ต  โดยพื้นที่บริเวณนี้ กรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ทหารเรือใช้พื้นที่ กว่า 3,700 ไร่ “กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เมื่อสืบสวนสอบสวนพบการกระทำความผิดพระราชบัญญัติต่าง ๆ ตามอำนาจหน้าที่เข้าพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายโดยความเป็นธรรมและเท่าเทียบกัน”

ทางด้าน พลเรือโทอาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 กล่าวว่า วันนี้ได้พบกับตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ  จึงได้มอบหลักฐานเชิงลึกที่เกี่ยวกับตัวบุคคลและกลุ่มบุคคล  ที่น่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิดทำลายทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการค้า และเข้ามูลฐานการฟอกเงิน ซึ่งต่อไปนี้ทางด้านคดีการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดก็น่าเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ก็จะทำหน้าที่ในการสนับสนุนพนักงานสอบสวนคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ  ส่วนการใช้พื้นที่ก็จะปฎิบัติตามเงื่อนไขของกรมป่าไม้อย่างเคร่งครัด  และพยายามจะปลูกไม้ป่าพื้นถิ่นเดิมให้มีความหลากหลายในพื้นที่ป่าที่ถูกทำลายปลูกพืชเชิงเดี่ยว

ที่มา: สถานีวิทยุแห่งประเทศไทย

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่