กรมควบคุมโรคเผยคนไทยเสียชีวิต 1 ป่วย 43 เตือนงดเดินทางไป 11 ประเทศ เสี่ยงติดโควิด-19

วันนี้ (2 มี.ค.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น ล่าสุดมีคนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ป่วยรวม 43 นอกจากนี้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 แล้ว โดยจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาต่อไป ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตพบว่ามีเรือสำราญเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเข้มเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19

ข่าวภูเก็ต

วันจันทร์ ที่ 2 มีนาคม 2563, เวลา 16:02 น.

ภาพ AFP / กรุงเทพมหานคร

ภาพ AFP / กรุงเทพมหานคร

กรมควบคุมโรคได้กำหนดพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่คนแออัด (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มีนาคม 2563 เวลา 09.00 น.) ได้แก่ 1. สาธารณรัฐประชาชนจีน 2. ฮ่องกง 3.มาเก๊า4.ไต้หวัน 5.เกาหลีใต้ 6.ญี่ปุ่น 7.สิงคโปร์ 8. อิตาลี 9.อิหร่าน 10.ฝรั่งเศส และ 11.เยอรมนี

นอกจากนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 12.00 น.) ระบุ รายชื่อเมืองประเทศเกาหลีใต้ที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่คนแออัด 6 เมือง ประกอบไปด้วย แทกู คย็องซังเหนือ คย็องกี คย็องซังใต้ ปูซาน และ กรุงโซล และรายชื่อเมืองประเทศญี่ปุ่นที่ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่คนแออัด ได้แก่ ฮอกไกโด โตเกียว ไอจิ วายากามะ คานางาวะ ชิบะ ไอกินาวา เกียวโต และโอซากา

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ข้อมูล ณ วันที่ 1 มี.ค.63 พบผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศไทย จำนวน 42 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และอาการรุนแรง 1 ราย โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายไทยอายุ 35 ปี ในเรื่องนี้ นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตมีการใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด ซึ่งผู้ป่วยรายนี้เข้าพบแพทย์ที่ รพ.เอกชน ด้วยโรคไข้เลือดออก ต่อมาพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมด้วย จึงส่งต่อมาที่สถาบันบำราศนราดูร หลังจากการรักษาเป็นระยะเวลา 1 เดือนไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. แต่ด้วยสภาพปอดที่เสื่อมแต่เดิม ประกอบกับหัวใจและอวัยวะภายในทำงานหนัก ทำให้อวัยวะภายในหลายระบบล้มเหลว จึงเสียชีวิตในที่สุด ล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 2 มี.ค. 63 เวลา 11.00 น. พบผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศไทยเพิ่มอีก1 รายเป็น 43 ราย

การเฝ้าระวังคัดกรอง และป้องกันควบคุมโรค กรมควบคุมโรคให้สั่งการให้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ คัดกรองผู้ที่เดินทางเข้าออกประเทศ ทั้งท่าอากาศยาน ท่าเรือ และพรมแดน รวม 46 แห่ง โดยจังหวัดภูเก็ตมีรายชื่อเป็น 1 ใน 6 ท่าอากาศยานเฝ้าระวัง รวมถึงแจ้งให้สถานพยาบาลทำการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ และมีประวัติการเดินทางจากพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง และมีการการเฝ้าระวังในชุมชน หากพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้แจ้งบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต พบว่าได้มีเรือท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจอดพักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีเรือสำราญเดินทางเข้ามาเทียบท่าที่บริเวณชายหาดป่าตอง และเพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 เจ้าหน้าที่นำโดย ศรชล.จังหวัดภูเก็ต บูรณาการตรวจคัดกรองวัดไข้นักท่องเที่ยวที่มากับเรือสำราญ 2 ลำ ที่ได้เดินทางเข้ามาเทียบท่าหาดป่าตองเมื่อวันที่ 29 ก.พ. อันได้แก่ MSC SPLENDIDA สัญชาติปานามา มีนักท่องเที่ยว 1,440 คนและลูกเรือ 1,122 คน โดยเรือลำดังกล่าวเดินทางจากสิงคโปร์มุ่งหน้าสู่ศรีลังกา และได้จอดพักที่หาดป่าตองในระหว่างเวลา 06.00 – 22.00 น. และเรือ SPV STAR CLIPPER สัญชาติมอลตา เดินทางจากสิงคโปร์สู่ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวจำนวน 128 คน ลูกเรือ 74 คน เข้าจอดทอดสมอบริเวณหน้าหาดป่าตอง ในเวลา07.00 – 18.00 น. โดย ศรชล.จังหวัดภูเก็ต รายงานผลการตรวจว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

รายงานเพิ่มเติม: เอกภพ ทองทับ

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่