จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่าในช่วงวันที่ 5 - 7 พฤศจิกายนนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางเสี่ยงเกิดฝนฟ้าคะนอง และฟ้าผ่า และขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย ได้ออกมาเตือนพร้อมกับให้คำแนะนำในกรณีเกิดฟ้าผ่า โดยเปิดเผยว่า จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข มีผู้เสียชีวิตจากฟ้าผ่า ตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 พบว่าในปี 2561 มีผู้เสียชีวิต 76 ราย ปี 2562 มี 62 ราย และตลอดปี 2563 มีผู้เสียชีวิตแล้ว 57 ราย (รวมมีผู้เสียชีวิต 195 คน) พร้อมทั้งได้เตือนให้ประชาชนหลบอันตรายจากฟ้าผ่าในพื้นที่ปลอดภัย โดย ห้าม! ไปหลบในที่โล่งแจ้ง เช่น ทุ่งนา หรือ สนามฟุตบอล ไม่อยู่ในบริเวณใต้ต้นไม้หรือเสาไฟฟ้า ถอดวัตถุหรือเครื่องประดับที่เป็นโลหะออก และขอให้งดใช้อุปกรณ์สื่อสาร
สำหรับคำแนะนำในกรณีหลบอยู่ในรถหรือในอาคาร ควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ หากกรณีหลบในรถ ขอให้ จอดรถห่างจากต้นไม้ ตึกสูง เสาไฟฟ้า และป้ายโฆษณา, ดับเครื่องยนต์ ปิดกระจก และอย่าสัมผัสกับโครงของรถที่เป็นโลหะ
กรณีหลบอยู่ภายในอาหคาร ขอให้ปิดประตูหน้าต่างทุกบาน, อยู่ห่างจากผนังอาคาร ประตู และหน้าต่าง รวมถึงถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดออกให้หมดด้วย
ในส่วนของการช่วยเหลือเบื้องต้น นพ.สุวรรณชัย แนะนำว่าหากพบเห็นผู้ที่ถูกฟ้าผ่าให้สังเกตบริเวณที่เกิดเหตุยังมีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าอีกหรือไม่ เคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปที่ปลอดภัย สามารถแตะต้องตัวผู้ถูกฟ้าผ่าได้ทันที เพราะคนที่ถูกฟ้าผ่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ในตัว ต่างจากผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าช็อต รีบโทรแจ้งเหตุสายด่วน 1669 และสามารถใช้เครื่องCPR และเครื่องช่วยชีวิตฉุกเฉิน (AED) ได้ทันที
สำหรับอากาศจังหวัดภูเก็ตและชายฝั่งอันดามันในช่วงวันที่ 5 – 7 พ.ย. คาดหมายมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร และมีฝนเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 8 – 11 พ.ย. โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
