นายมานิต ดำกุล นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ได้ ประชุมคณะกรรมการ ที่ปรึกษาและตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน ตัวแทนเรือประมงพาณิชย์ ตัวแทนสมาชิกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เพื่อขอมติในที่ประชุม กรณีที่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือด่วนถึงสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ เพื่อขอความเห็นเกี่ยวกับเรือประมงเครื่องมืออวนครอบช้อนยกหมึก จำนวน 27 ลำจากทะเลฝั่งอ่าวไทย เช่น เรือประมงจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพรและจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะข้ามมาทำการประมงยังฝั่งทะเลอันดามัน ในช่วงที่ฝั่งอ่าวไทยมีมรสุม ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี
ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นด้วยที่จะให้เรือประมงจากฝั่งอ่าวไทยย้ายเข้ามาทำการประมงในจังหวัดกระบี่ ฝั่งทะเลอันดามัน โดยให้เหตุผลว่า การประกอบอาชีพชาวประมงของจังหวัดกระบี่ มีแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรประมงทะเลและวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านทำธุรกิจแบบพอเพียง โดยมีการปิดอ่าวหยุดการทำประมงเป็นเวลาถึง 3 เดือน เพื่ออนุรักษ์การทำอาชีพประมงและควบคู่กับการอนุรักษ์ธรรมชาติในพื้นที่ทะเลอันดามัน
ทั้งนี้ เรือประมงที่จะเข้ามาเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่และใช้เครื่องการทำการประมงที่ทันสมัย ซึ่งในพื้นที่ทะเลอันดามันจังหวัดกระบี่เป็นพื้นที่แคบและมีเขตหวงห้ามอีกจำนวนมาก เช่น เขตอุทยานแห่งชาติ เขตชายฝั่ง 3 ไมล์ทะเล เขตการทำประมงห่างจากเกาะอีก 1.5 ไมล์ทะเล และมีระดับน้ำค่อนข้างตื้น อาจจะทำให้ทรัพยากรทางทะเลมีความเสียหายเป็นอย่างมาก หากไม่มีการควบคุมเรือประมงและเครื่องมือทำการให้สมดุลและสอดคล้องกับจำนวนสัตว์น้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน
นายกสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากนี้จะได้ทำหนังสือผลการแสดงความคิดเห็นไปยังทางสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ในฐานะประธานคณะกรรมการประมงจังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ จะให้นายอาหลี ชาญน้ำ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมประมงจังหวัดกระบี่และนายกสมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่ จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจการมารับฟังปัญหาการทำการประมงของชาวประมงพื้นบ้าน ณ จังหวัดตรัง ในวันที่ 19 ก.ค. นี้อีกครั้ง
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
