คดีพลิก! จีนหลอกจีนล็อคเป้าบินสู่ภูเก็ต แสร้งเป็นแท็กซี่มัดมือปิดตาเหยื่อ ตระเวนกดเงิน 2 แสน

ภูเก็ต – ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดภูเก็ต นำทีมกระชากหน้ากากโจรชาวจีน วางแผนชิงทรัพย์เหยื่อสาวซึ่งเป็นคนจีนด้วยกัน ตีสนิท ล็อคเป้าจากเมืองจีนแล้วมาก่อเหตุชิงทรัพย์ในเมืองไทย โดยทำให้เหยื่อหลงเชื่อ ซ้อนแผนแสร้งเป็นคนขับรถแท็กซี่ สุดท้ายความจริงเปิดเผยว่า คนร้ายก็คือเหยื่อชายชาวจีนที่มากับผู้เสียหาย โดยร่วมมือวางแผนกับชาวจีนอีกคนเช่ารถเก๋งปลอมตัวเป็นคนขับแท็กซี่ ตระเวนกดเงินสดประมาณกว่า 2 แสนบาท

เอกภพ ทองทับ

วันอังคาร ที่ 25 มิถุนายน 2562, เวลา 13:16 น.

วันนี้ (25 มิ.ย.) เวลา 11.00 น. ที่ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผบช.ภ.8, พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท., พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล, พล.ต.ต.วิศาล พันธ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3, พล.ต.ต.ชินรัตน์ ฤทธาคนานนท์ ผบก. สส.ภ.8, พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริม ขวัญนิมิต รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.ธงไชย วิไลพรหม ผกก.2 บก.ท.3, พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.อ.เทอดทูล สร้อยสุภาพันธ์ ผกก.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ต.สุชาติ ชุมพูแสง, พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ, พ.ต.ท.สมเดช สารบรรณ, พ.ต.ท.วรากร อ่อนแก้ว พร้อมพวกได้ร่วมกันจับกุม นายมิน เซียง (Mr.Min Xiang) ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 155/2562

ซึ่งการแถลงข่าวการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้พบกับนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 คนคือ นางสาวหลี่ เปียลิน (Li Peilin) และนายมิน เซียง ยืนอยู่ที่หน้าสภ.ป่าตอง จึงได้เข้าไปสอบถาม ทั้งสองได้ให้ข้อมูลว่าถูกคนร้ายซึ่งขับรถรับจ้างแท็กซี่ก่อเหตุชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้สายรัดข้อมือ (เคเบิ้ลไทร์) รัดข้อมือและเท้า จากนั้นได้พาตระเวนไปตามจุดต่าง ๆ แล้วเอาบัตรเครดิต และบัตร ATM ของนางสาวเปียลินไปกดเงินสด ได้เงินไปประมาณ 200,000 บาท และเอาเงินสดของนายมินเซียงไปจำนวน 28,000 เหรียญสหรัฐ

จากการตรวจสอบตามคำให้การของนางสาวเปียลิน พบว่ามีการถอนเงินจากบัตรออกไปจริง โดยนำไปถอนในพื้นที่ราไวย์ ซึ่งเป็นเขตสภ.ฉลอง จึงได้นำนักท่องเที่ยวทั้งสองไปพบพนักงานสอบสวนสภ. ฉลอง และได้เข้าทำการสืบสวน จนพบว่าคำให้การของนางนายมินมีพิรุธ น่าสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือวางแผนในการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย

จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ทีมสอบสวนสามารถติดตามรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว หมายเลขทะเบียน กย 7178 ภูเก็ต ที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งรถคันนี้ได้มีนายวู เชงซี (Wu Chengxi) เป็นผู้เช่าและนำรถมาคืนในช่วงเช้าภายหลังที่ก่อเหตุ

ตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณที่ร้านเช่ารถพบว่าผู้ใช้รถคันดังกล่าว เป็นคนคนเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่คนร้ายนำบัตรของนางสาวเปียลินไปกดเงินนั้น พบว่านายมินซียงที่อ้างว่าถูกจับมัดมือปิดตานั้นไม่ได้เป็นไปตามที่ให้การ ทั้งยังพบว่ามีพฤติการณ์ที่สนิทสนมกับคนร้าย

จากนั้นทีมสอบสวนจึงได้ซักปากคำนายมินเซียง ซึ่งภายหลังรับว่าตนได้ร่วมกับนายวูวางแผนชิงทรัพย์นางสาวเปียลิน โดยให้นายวูไปเช่ารถและทำทีว่าเป็นคนขับแท็กซี่ ขับมาบริเวณร้านอาหารที่ตนกับนางสาวเปียลินกำลังรับประทานอาหารอยู่ และเมื่อทานเสร็จตนจะได้เรียกให้ไปส่ง ก่อนที่นายวูใช้ปืนปลอมบังคับให้นางสาวเปียลินใช้สายรัดมัดมือนายมินเซียงก่อน จากนั้นนายวูทำการมัดมือและเท้านางสาวเปียลินอีกทีพร้อมทั้งปิดตาเธอด้วย ก่อนตระเวนไปกดเงิน แล้วนำตนและเหยื่อสาวไปปล่อยลงที่สามแยกทางไปหาดในหาน

จากข้อมูลดังกล่าว ทีมสืบสวนจึงได้ขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับนายมิน เซียง และ นายวู (หมายจับเลขที่ 156/2562) ในความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์และร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว” โดยสามารถจับกุมตัวนายมินเซียงได้ แต่นายวูนั้นหลบหนีออกนอกประเทศหลังก่อเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวต่อไป

พ.ต.อ.ประวิทย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า นายมินเซียงและผู้เสียหายนั้นได้พบและรู้จักกันขณะพักผ่อนในภูเก็ต เมื่อประมาณเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นจึงได้แลกเบอร์ติดต่อและพูดคุยกัน โดยนายมินเซียงนั้นบินไปมาระหว่างภูเก็ตและเมืองจีน โดยทั้งคู่มีการพบปะกันที่จีนด้วย ก่อนที่นานมินเซียงจะชักชวนนางสาวเปียลินให้มาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยบอกเธอว่าตนเองนั้นอยู่ที่นี่แล้วอยากจะให้มาเที่ยวด้วยกัน

ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.วิศาล กล่าวว่า สำหรับการก่อเหตุในครั้งนี้ หากทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถคลี่คลายได้ จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์ของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทย รวมถึงภาพลบต่อผู้ประกอบการรถรับจ้าง รถแท็กซี่ และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ฉะนั้นจึงต้องขอบคุณทุกฝ่ายทุกคน ที่ช่วยกันทำงานจนสามารถคลี่คลายคดีได้ก่อนจะเกิดความเสียหายกับทุกฝ่าย

 

 

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่