พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.วิชิต เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดไปก่อน และตอนนี้ประสานทางประสานสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เรียบร้อย เมื่อแจ้งเรียบร้อยแล้วจะได้แจ้งข้อหาเกี่ยวกับที่ทำร้ายเด็กต่อไป ส่วนข้อหาอื่นต้องรอชันสูตรบาดแผลของเด็กก่อนถึงจะแจ้งข้อกล่าวหา ตอนนี้คือควบคุมพ่อแม่เด็กเรื่องเสพยาเสพติด ส่วนลูกคนเล็กให้คุณยายเลี้ยง ส่วนคนโตคุณย่ามารับไปดูแล
ทางด้าน นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต ก็ได้ติดตามการดำเนินการในเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังจากการพูดคุยบริเวณหน้าบ้านหลังสนามสุระกุล เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวแม่ของเด็กไปยัง สภ.วิชิต เพื่อสอบสวน ทราบว่า ครอบครัวอยู่ด้วยกัน 5 คน และแม่เด็กรับว่าทำคนเดียว อ้างว่าตนเองรักลูกไม่เท่ากัน ส่วนพ่อเด็กอ้างว่าไปทำงาน แม่ยายโทรไปจึงได้ทราบว่าลูกถูกส่งไปโรงพยาบาล
“ครั้งหนึ่งทางพรรคประชาชนเคยเสนอการแก้ไข คือ ยกเลิก (2) ของมาตรา 1567 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “ทำโทษบุตรเพื่อสั่งสอนหรือปรับพฤติกรรมโดยต้องไม่กระทำด้วยความรุนแรงต่อร่างกาย จิตใจ ไม่เป็นการเฆี่ยนตี หรือการกระทำโดยมิชอบ อันเป็นการลดทอนคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุตร” แต่ถูกคว่ำ เนื่องจากรัฐบาลมองว่ายังมีความคลุมเครือและไม่ชัดเจนครับ ผมหวังว่าเคสแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเด็กคนไหน และการทำร้ายเด็กจะไม่เกิดขึ้นกับสังคมไทยอีกต่อไปครับ” นายเฉลิมพงศ์ ระบุ
