ซึ่งในวันนี้ (1 เม.ย.) นายสมบูรณ์ เปรมประเสริฐ ว่าที่สมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต กับนางราตรี ธานิน เจ้าหน้าที่ อปพร.เทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งจากการพูดคุยในวันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ทำความเข้าใจกัน และพร้อมจะทำงานเพื่อส่วนรวมร่วมกันต่อไป
โดยก่อนหน้าที่จะมีการพูดคุยต่อหน้า วานนี้ (31 มี.ค. 64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดคัดกรองก่อนเข้าสวนสาธารณะสะพานหินภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เพื่อพูดคุยกับอปพร.ที่อยู่ในเหตุการณ์
น.ส.ราตรี เล่าว่า วันเกิดเหตุตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดคัดกรองให้ประชาชนผ่านเข้าออกได้ตามเวลาที่กำหนด จากนั้นได้มีกลุ่มว่าที่สท.นครภูเก็ต 3 คนเดินเข้ามาต่อว่าตนและพยายามจะเปิดประตูเหล็กที่ล็อคกุญแจไว้ เพื่อเข้าไปด้านในสวนสาธารณะ พร้อมกับต่อว่าตนและทีมงานอย่างเสีย ๆ หายๆ ใช้คำหยาบด่าทอถึงบุพการี โดยที่ตนไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแต่อธิบายให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวฟังว่า ตนเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและคัดกรอง ประชาชนที่มาใช้สวนสาธารณะสะพานหินเท่านั้น เรื่องอื่นตนไม่ทราบ
เธอเล่าต่อไปอีกว่า จากคำพูดและการกระทำ ทั้งสามคนนั้นได้ดูหมิ่นอาชีพของตน โดยเฉพาะเกียรติและศักดิ์ศรีของชุดอปพร. ที่สวมใส่อยู่นี้ มันไม่ได้มาง่าย ๆ ต้องผ่านฝึกอบรม ผ่านขั้นตอนมากมาย กว่าจะได้มายืนใน ณ จุดนี้ ส่วนตัวแล้วตนรู้จักว่าที่สท.กลุ่มนี้ดี และเป็นอปพร.รุ่นที่ 7 มีครูฝึกคนเดียวกัน
“การกลุ่มว่าที่ สท.ดังกล่าวใช้คำไม่สุภาพด่าทอถึงบุพการีนั้น ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะผู้นำเขาไม่ทำกัน ขอให้กลับไปปรับปรุงแก้ไขกริยามารยาทในการจะเป็นผู้นำต่อไปในอนาคต” เธอกล่าว
นายเกษม ถมยวัฒน์ ข้าราชการบำนาญ ที่มาออกกำลังกายที่สะพานหินเป็นประจำ กล่าวว่า เหรียญมี 2 ด้าน จะปิดหรือเปิดก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ตอนนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด มีประกาศให้ปิดสวนสาธารณะยังไม่มีคำสั่งเปิด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เจ้าหน้าที่อปพร.ทำนั้นถูกต้องดีแล้ว
อย่างไรก็ตามในวันนี้ นายสมบูรณ์ว่าที่สท.นครภูเก็ต กล่าวว่า ตนต้องขอโทษด้วยที่พูดจาพลาดพลั้งไปไม่ทันได้คิด ความจริงแล้วตอนที่ลงหาเสียงได้มีชาวบ้านหลายคนพูดถึง เรื่องการปิดสวนสาธารณะสะพานหิน ว่าเกิดความไม่สะดวกกับหลาย ๆ คน เพราะมีการปิดรั้วรถไม่สามารถเข้ามาภายในสวนสาธารณะได้ ถ้าตนได้รับรองเข้ามารับตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลนครภูเก็ต ตนจะเอาเรื่องนี้ไปหารือและจัดทำแผน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุดในการเข้าใช้สวนสาธารณะ
สุดท้ายนางราตรีกล่าวว่าตนยังเสียใจมาก แต่ในเมื่อผู้กระทำผิดได้เข้ามาพูดคุยปรับความเข้าใจและขอโทษแล้ว ตนก็พร้อมให้อภัย และจะทำงานร่วมกันต่อไปให้ภูเก็ตเจริญในวันข้างหน้า
