สืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ 1จัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนการจัดระเบียบดำน้ำในพื้นที่ โดยมอบให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาตรวจสอบความถูกต้อง ข้อมูลบริษัทที่ขึ้นทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต จัดทำคู่มือแนะนำนักท่องเที่ยวในการดำน้ำ แต่งตั้งคณะทำงานจัดระเบียบการดำน้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มอบหมายให้นายสุพจน์ กำกับและดูแลการจัดระเบียบการดำน้ำในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
ซึ่งในที่ประชุมได้มีการพิจารณาการเกิดอุบัติเหตุจากการดำน้ำ ของนักท่องเที่ยวเกาหลีและครูสอนดำน้ำ จมน้ำเสียชีวิตที่เกาะราชาวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา
นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 กล่าวว่า ได้เชิญบริษัทนำเที่ยวไอส์แลนด์วันเดอร์ ที่นำนักท่องเที่ยวเกาหลีไปดำน้ำจนถึงแก่ความตาย ให้ทางบริษัทเข้ามาพบเพื่อถามเรื่องการประกันชีวิต และประกันอุบัติเหตุของนักท่องเที่ยว แต่ทางบริษัทฯไม่มาพบ ถ้าภายใน 5 วัน จากนี้ยังไม่มาจะพักใช้ใบอนุญาต และในกรณีนี้มีโทษทางอาญาโทษทางคดีปกครองพักใช้ใบอนุญาตไม่เกิน 6 เดือน
นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการเสนอให้กวดขันและควบคุมครูสอนดำน้ำของบริษัทที่เปิดกิจการดำน้ำ การขอใบอนุญาตเฉพาะดำน้ำ และควรมีการอบรมนักท่องเที่ยวก่อนลงดำน้ำ เพื่อความปลอดภัยควรมีครูสอนดำน้ำประกบนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด
นายสุพจน์ กล่าวว่า “จังหวัดกำหนดมาตรการตรวจสอบร้านให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ สอนดำน้ำ และธุรกิจที่เปิดใหม่ ใช้อำนาจของ กอ.รมน.จังหวัด เข้าตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวดำน้ำทั้งหมด เพื่อควบคุมในกติกาของการท่องเที่ยว เริ่มให้ตรวจสอบแล้วในวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้เป็นต้นไป” พร้อมทั้งชี้แจงเกี่ยวกับบริษัทซึ่งเปิดให้บริการธุรกิจดำน้ำไม่ถูกต้องในพื้นที่
“บริษัทดำน้ำในภูเก็ตมีที่เกาะราชา เกาะเฮ เกาะไม้ท่อน และเกาะนาคาน้อย ที่มีข้อมูลขณะนี้พบว่ามีไม่ถูกต้องจำนวน 10 ราย ที่เกาะราชาต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นได้สั่งให้ระงับการให้บริการและให้ตรวจสอบแล้ว” นายสุพจน์ กล่าว “ส่วนช่องโหว่ต่าง ๆ ในการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย บังคับใช้ในการดำน้ำของนักท่องเที่ยวจะเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาต่อไป”