จับ 2 หนุ่มไนจีเรียปลอมเป็นหนุ่มหล่อผิวขาว แอดไลน์ลวงเหยื่อสาว สูญเงินนับแสน

ภูเก็ต – วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวคนต่างด้าวสัญชาติไนจีเรีย คนร้ายในเครือข่ายโรแมนซ์สแกม 2 ราย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยคนร้ายได้ร่วมกันหลอกลวงหญิงสาวชาวไทย โดยการปลอมตัวเป็นชายผิวขาววัยกลางคนหน้าตาดี เข้ามาตีสนิทก่อนจะหลอกเงินเหยื่อมูลค่าหลายแสนบาท

เอกภพ ทองทับ

วันศุกร์ ที่ 21 มิถุนายน 2562, เวลา 11:38 น.

ภาพ เอกภพ ทองทับ

ภาพ เอกภพ ทองทับ

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจพันธุ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ส ตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.เจษฎา ใยสุ่น ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ณัฎฐภาคิน ขวัญชัยพฤกษ์ รอง ผกบ.ตม.6 และ พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมแถลงข่าว การจับผู้ต้องหาชาวต่างชาติรายสำคัญรวมถึง สองชายต่างชาติติดแบล็คลิสต์ 100 ปี เปลี่ยนชื่อย้อนกลับเข้าภูเก็ต (อ่านเพิ่มเติม คลิก)

พ.ต.อ.คธาธร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 62 เวลาประมาณ 12.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ร่วมกันจับกุมตัวคนต่างด้าวสัญชาติไนจีเรีย 2 ราย ซึ่งเป็นคนร้ายในเครือข่ายโรแมนซ์สแกม คือนายโอโคโร่ อีฟฟานี่ แดเนียล อายุ 25 ปี ในความผิดฐาน “มีและใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราวโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และนายเฮียการ์ มัคคอลี่ เฮียชิ อายุ 23 ปี “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราวโดยการอนุญาตสิ้นสุด”

พร้อมของกลางหลายรายการ ได้แก่ บัตรเอทีเอ็ม หมายเลข 5577 5571 3392 7153 ชื่อหลังบัตร ศิริวรรณ ชะนะพงมา, สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 803-216143-0 ชื่อบัญชี น.ส.ศิริวรรณ ชะนะพงมา, เสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะไปกดเงินตรงกับภาพที่ปรากฎตามกล้องวงจรปิด. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง สำหรับแจ้งเตือนการทำธุรกรรมทางการเงิน และหนังสือเดินทางของผู้ถูกจับทั้งสองราย

ก่อนเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 62 มีชื่อผู้ใช้ในแอพพลิเคชั่น Line ชื่อว่า PETRU CAROL ใช้ภาพแทนตัวเป็นชาวต่างชาติผิวขาว วัยกลางคน หน้าตาดี เพิ่มเพื่อนเข้ามาหา จากนั้นได้พูดคุยหว่านล้อมกันทางไลน์ จนกระทั่งผู้เสียหายไว้ใจ และสัญญาว่าจะเป็นแฟนด้วย โดยจะส่งของขวัญมาให้กับผู้เสียหายจากต่างประเทศ

ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. ได้มีโทรศัพท์หมายเลข 061-4540476 โทรศัพท์มาจากบริษัทเอ็กซ์เซล โลจิสติกส์ โทรศัพท์มาหาผู้เสียหายและแจ้งว่า “มีพัสดุมาจากต่างประเทศส่งมาให้แก่ผู้แจ้งต้องชำระค่าภาษี เป็นเงินจำนวน 38,000 บาท โดยให้ผู้เสียโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 803-216143-0 ผู้แจ้งหลงเชื่อจึงไปโอนเงินจำนวน 38,000 บาท ผ่านบริการบริการโอนเงินออนไลน์ SCB ไปยังบัญชีดังกล่าว

จากนั้นโทรศัพท์หมายเลขเดิมโทรกลับมาแจ้งว่า เนื่องจากพัสดุมูลค่าสูงให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่ม 98,500 บาท ผู้เสียหายจึงไปโอนเงินไปตามจำนวนที่แจ้ง หลังจากโอนเสร็จผู้แจ้งได้โทรศัพท์ไปสอบถามรายละเอียด ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อหมายเลขดังกล่าว และผู้ใช้ในแอพพลิเคชั่น Line ชื่อว่า PETRU CAROL ได้อีก จึงเชื่อว่าถูกแก๊งค์มิจฉาชีพโรแมนซ์สแกมหลอกลวง จึงได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.บางปลาม้า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 62 รวมมูลค่าความเสียหายของผู้เสียหายรายนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 136,500 บาท

จากการสืบสวนพบว่า บัญชีหมายเลขดังกล่าวชื่อบัญชี น.ส.ศิริวรรณ เป็นบัญชีที่คนร้ายใช้ มีการทำรายการถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าว ในพื้นที่ ต.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต จึงได้ดำเนินการสืบสวน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการประสานข้อมูลกับ ธ.ไทยพาณิชย์ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจำนวนหลายจุด ซึ่งสอดคล้องกับเวลาการทำรายการถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าว

พบว่าผู้ที่มาทำรายการถอนเงินเป็นชายชาวต่างชาติผิวสี คือนายโอโคโร่ ต่อมาวันที่ 15 มิ.ย.2562 ในเวลาประมาณ 12.15 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายโอโคโร่ที่ก่อนหน้านี้เคยถอนเงินตามจุดต่าง ๆ กำลังทำรายการถอนเงิน อยู่ที่ตู้เอทีเอ็ม ภายในห้างสรรพสินค้าจังซีลอน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอทำการตรวจสอบบัตรเอทีเอ็มดังกล่าว พบว่า เป็นบัตรเอทีเอ็ม หลังบัตรระบุชื่อศิริวรรณ ชะนะพงมา ซึ่งใช้คู่ในการเบิกถอนเงินจาก บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด ชื่อบัญชี น.ส.ศิริวรรณ ที่ผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงินไป

จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ห้องพักภายในเดอะวิลล่า กริว บาร์ เรสเตอรอง ถ.นาใน ต.ป่าตอง เป็นห้องพักที่นายโอโคโร่อาศัยอยู่ และพบนายเฮียการ์พักอาศัยอยู่ในห้องดังกล่าว จึงเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ สมุดบัญชีของกลาง และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางของทั้งคู่ พบว่าสิ้นสุดการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลจากระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (PIBICS) พบว่าทั้งสองอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดจริง จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้งสองส่ง พงส.สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในส่วนคดีที่แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ได้ประสาน พงส.ผู้รับผิดชอบ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว จากการสอบถามนายโอโคโร่รับว่า ตนได้นำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น มาใช้กดเงินในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จริง โดยเงินบางส่วนนำมาใช้จ่ายเอง และบางส่วนได้โอนไปยังหัวหน้าของเครือข่าย ที่อยู่ในประเทศกัมพูชา

จากการสืบสวน ภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานอื่น ๆ พบว่า นายโอโคโร่ทำหน้าที่ในการกดเงินออกจากบัญชี โอนไปยังหัวหน้าเครือข่าย และนายเฮียการ์เป็นตัวการร่วมหรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบรายการเดินบัญชีเบื้องต้นของ เลขที่บัญชี 803-216143-0 ชื่อบัญชี น.ส.ศิริวรรณ ซึ่งผูกกับบัตรกดเงินสดที่นายโอโคโร่ใช้ในการกดเงิน ตั้งแต่วันที่ 12-14 มิ.ย. 62 มีการกดเงินสดออกจากบัญชีดังกล่าว เป็นเงินทั้งสิ้น 502,000 บาท และยังพบว่ามีการทำรายการทางการเงินที่ผิดปกติอีกหลายกรณี จะได้ทำการสืบสวนและหากพบว่า มีผู้เสียหายเพิ่มเติมจะได้แจ้งให้ดำเนินการร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และขยายผลต่อไป

พ.ต.อ.คธาธร เน้นย้ำว่า การจับกุมในครั้งนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีนโยบายในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรม ในทุกรูปแบบฐานความผิดอย่างจริงจัง และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของสถานที่พักอาศัยหรือประชาชนทั่วไป หากพบบุคคลต่างชาติที่มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสมในลักษณะต่างๆ หรือคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โทร.1178 หรือที่ www.immigration.go.th

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่