จับกุม 3 ต่างด้าวจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์พร้อมของกลางพันรายการ กว่า 5 แสนบาท

ภูเก็ต - วานนี้ (16 ม.ค. 61) ปลัดอำเภอเมืองภูเก็ต นำทีมตรวจสอบและจับกุมผู้ที่ลักลอบขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์บริเวณหาดกะรน ก่อนรวบผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมตั้งข้อหาครอบครองสินค้าปลอมและทำงานผิดกฎหมาย

เอกภพ ทองทับ

วันพุธ ที่ 17 มกราคม 2561, เวลา 09:35 น.

นายดนัย ใจแข็ง ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้ ว่าที่ร.ต.วิกรม จากที่ นายอำเภอเมืองภูเก็ต ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้ที่ลักลอบขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในเขตอำเภอเมือง จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองภูเก็ต ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารบก เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความสงบกองทัพเรือภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบบริเวณริมถนน ร้านไม่มีชื่อ ไม่มีเลขที่ (ข้างร้านกะรนมินิมาร์ท) ถนนหลวงพ่อฉ้วน ม.1 ต.กะรน

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีการขายสินค้าดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าดำเนินการจับกุม ได้ผู้ต้องหา 3 คน คือนางดอน ที ทวน อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมด้วยของกลางกระเป๋า เข็มขัด รองเท้า ปลอมแปลง จำนวน 674 ชิ้น และเงินสด 200 บาท โดยกล่าวหาว่า มีสินค้าปลอมไว้จำหน่าย และหรือมีไว้ในครอบครองสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม หรือเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ที่จดทะเบียนไว้แล้วราชอาณาจักรหรือจดทะเบียนไว้แล้วนอกราชอาณาจักร, เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานที่กฎหมายกำหนดห้ามคนต่างด้าวทำ (ขายของหน้าร้าน) โดยผิดกฎหมาย, และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย

และจับกุมนายรอน (ไม่ทราบนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติกัมพูชา และนายเพรียน คิมรา อายุ 20 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมด้วยของกลางสินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า จำพวกแว่นตายี่ห้อต่างๆ จำนวน 379 ชิ้น เงินสด 5,820 บาท กระเป๋าคาดเอวใส่เงิน 1ใบ

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีสินค้าปลอมไว้จำหน่าย และหรือมีไว้ในครอบครองสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม หรือเครื่องหมาย การค้าของผู้อื่น ที่จดทะเบียนไว้แล้วราชอาณาจักรหรือจดทะเบียนไว้แล้วนอกราชอาณาจักร เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานที่กฎหมายกำหนดห้ามคนต่างด้าวทำ (ขายของหน้าร้าน) โดยผิดกฎหมาย, และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 รายต่าง รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตามในส่วนของมูลค่าความเสียหายนั้น นายดนัยกล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าที่ยึดได้นั้นมีจำนวนรวมกว่า 1,053 ชิ้น ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 5 แสนบาท

 

 

แจ้งข่าว..คลิกที่นี่