จากการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางสายนครศรีธรรมราช-ภูเก็ต ที่มุ่งหน้าเข้ามายัง จ.ภูเก็ต พบนายชาคริต เพ็ชรรัตน์ อายุ 21 ปี บ้านเดิมจ.นครศรีธรรมราชโดยสารมากับรถคันดังกล่าวมีท่าทางพิรุธ จึงขอตรวจสอบถุงพลาสติกที่วางไว้บริเวณเบาะที่นั่งด้านซ้าย ภายในพบยาบ้าจำนวน 1,564 เม็ด จึงควบคุมตัวนายชาคริตลงจากรถโดยสารพร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ชั้นจับกุมนายชาคริตให้การสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยมีนายหาดไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริงได้โทรศัพท์ให้ตนเองไปรับยาบ้าที่หลังเสาไฟฟ้า ซึ่งมีคนนำมาวางไว้เลยค่ายเทพสตรีศรีสุนทร ก่อนถึงสี่แยกไฟแดง ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำมาส่งให้กับนายหาดที่การเคหะแห่งชาติ บ้านเอื้ออาทร ถ.เทพกระษัตรี ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยนายหาดจะให้ค่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่จะมีการขยายผลติดตามจับกุมนายหาดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาในวันที่ 9 ก.พ. ประมาณ 19.15 น. ชุดจับกุมได้ร่วมกันจับกุม นายประสอน แก้วประดิษฐ์ อายุ 20 ปี ชาวจ.สงขลา ซุกซ่อนยาเสพติดในกางเกงชั้นใน ขณะที่เดินทางมากับรถโดยสารประจำทางสายหาดใหญ่-ภูเก็ต มุ่งหน้าจังหวัดภูเก็ต
เมื่อถึงด่านตรวจเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้หยุดและ ได้ตรวจค้นและพบเห็นนายประสอนฯมีอาการพิรุธ จึงได้เชิญตัวลงมาตรวจค้นภายในอาคารโดยละเอียด พบของกลางคือ ยาบ้า มีอักษร wy บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบซิปล็อก อยู่รวมกันภายในถุงพลาสติกใส มัดด้วยสายยาง จำนวน 4 ถุง มียาบ้าสีส้มจำนวน 773 เม็ด ยาบ้าสีเขียว จำนวน 8 เม็ด รวมยาบ้า จำนวน 781 เม็ด และยาไอซ์ มีลักษณะเป็นเกล็ดใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบซิปล็อค อยู่รวมกันภายในถุงพลาสติกสีน้ำตาล จำนวน 6 ถุง นำ้หนักรวมประมาณ 28.40 กรัม ซุกซ่อนไว้ในกางเกงชั้นในตัวที่นายประสอนฯสวมใส่อยู่ในขณะตรวจค้น
เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สภ.ท่าฉัตรไชย ดำเนินคดีตามกฎหมาย